วานนี้ (2 ต.ค. 67) ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม พิจารณาญัตติด่วนเรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาศึกษาแนวทาง เสนอข้อคิดเห็น และการยกระดับมาตรฐานการป้องกันการเกิดขึ้น กรณีรถบัสทัศนศึกษาเกิดเหตุเพลิงไหม้ และหาแนวทางช่วยเหลือ และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ ที่เสนอโดยนายเจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย, นพ.ทศพร เสรีรักษ์ สส.แพร่ พรรคเพื่อไทย และ น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม. พรรคประชาชน
โดย นายเจเศรษฐ์ แถลงหลักการด้วยน้ำเสียงสะอื้นตลอดเวลา ว่า สิ่งที่ตนจะพูดอาจจะทำให้เกิดการกระทบกระเทือนจิตใจของคนที่รับชมอยู่ แต่ตนต้องพูดเพื่อให้ประชาชนรับรู้ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ตนในนามคนอุทัยธานี ในนามครอบครัวผู้ที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ต้องขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปช่วยเหลืออย่างเต็มความสามารถ และขอขอบคุณทุกการโอบอุ้ม ปลอบประโลมของทุกท่านที่ส่งมาให้เรา แต่วันนี้ พวกเราขอเก็บความเจ็บซ้ำนั้น ขอให้เป็นพวกเราที่รวบรวมเอาความเจ็บซ้ำนั้นเก็บไว้กับเรา และขอให้เป็นสิ่งที่ได้รับการเรียนรู้ การแก้ไข การยกระดับการป้องกันเพื่อจะไม่ให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับใครอีก
นายเจเศรษฐ์ กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น น้อง ๆ ที่เดินทางมาเพื่อตั้งใจจะมาเรียนรู้ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ในที่ที่บ้านเขาไม่มี มาในที่เขาใฝ่ฝันจะมา พร้อมกับไปบอกเล่าเรื่องราวให้ผู้ปกครองฟัง แต่ก็ยังมีน้องๆ และคุณครูที่ ขณะนี้ยังไม่ได้เดินทางกลับไปที่จ.อุทัยธานี
ทั้งนี้ เมื่อวานนี้ตนต้องเห็นสภาพที่คุณครูมือลวกไฟไหม้จากการช่วยเด็ก แต่ยังนั่งลงแล้วบ่นโทษตัวเองว่ายังทำได้ไม่มากพอ ยังทำได้ไม่ดีพอ ตนต้องเห็นพี่ชายที่ไม่สามารถดูแลน้อง ไม่สามารถพาน้องกลับบ้านได้ เฝ้าโทษตัวเองว่าเขาไม่สามารถดูแลน้องได้ ตนต้องเห็นพ่อแม่ผู้เสียชีวิตเดินแล้วเอ่ยชื่อของลูกตัวเองเพื่อสอบถาม เพราะอยากได้ยินว่าลูกของเขาไม่ได้อยู่บนรถคันนั้นหรือลูกเขาลงจากรถได้
ญาติผู้เสียชีวิตไม่ใช่แค่คนอุทัยธานีหรือประชาชนคนไทยเพียงอย่างเดียว แต่คนทุกคนที่เป็นมนุษย์เมื่อรับรู้เรื่องราวนี้ล้วนเศร้า วันนี้ พวกเรากำลังจะร่วมกันเพื่อหาแนวทางการแก้ไขในสิ่งที่เกิดขึ้น และขอให้รัฐบาลรวบรวมเพื่อออกมาตรการอย่างเป็นรูปธรรม
วันนี้ พวกเราไม่ขอเป็นบทเรียนหรือไม่ให้ใครมาถอดบทเรียนแล้ว เพราะมีการวนลูปซ้ำ ๆ หลายเหตุการณ์เกินไป แต่ขอเกิดเป็นการเรียนรู้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดการตื่นตระหนัก เพื่อให้พวกเราทุกคนตระหนักถึงมาตรการที่จะมาป้องกัน สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องของการเมือง ไม่ใช่เรื่องของพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่เป็นเรื่องของเราทุกคนที่จะต้องช่วยกันระดมความคิด แล้วเอาประสบการณ์มาสู่การแก้ไขจริง ๆ สักครั้ง สุดท้ายนี้ ผมขอสดุดีคุณครูทั้ง 3 คนที่ได้ปฏิบัติหน้าที่จนถึงลมหายใจสุดท้ายของชีวิต แต่พวกผมให้คำมั่นสัญญาว่าพวกผมจะสืบทอดเจตนารมณ์ของคุณครูที่พร้อมพลีกาย ปกป้องชีวิตน้อง ๆ นักเรียน
ด้าน พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้แถลงข่าว โดยมีอาการมือสั่นน้ำตาคลออยู่ เป็นระยะ จนบางช่วง ต้องหยุดนิ่ง ชะงัก พูดต่อไม่ได้
พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ได้ขอชี้แจงกับสื่อและโซเชียล ที่แสดงความเห็นว่า เหตุการณ์นี้สร้างความสูญเสีย แต่ทำไมบุคลากรบางคนมีหน้าตายิ้มแย้ม ว่า ทุกคนต่างเสียใจ และเจ็บปวดทุกคน แต่เมื่ออยู่หน้างานต้องเข้มแข็ง และเป็นกำลังใจ สร้างขวัญกำลังใจให้กับครูและนักเรียนกลับคืนมา เพราะทุกคนตกใจกันมาก ดังนั้นหน้างานจำเป็นต้องยิ้มแย้ม แต่ในความจริงแล้วตนเองปวดร้าวอย่างมาก
พลตำรวจเอกเพิ่มพูน กล่าวว่า ได้ออกคำสั่งให้งดกิจกรรมทัศนศึกษาทันทีในโรงเรียนทุกสังกัดทั่วประเทศ กรณีจำเป็นบางกิจกรรมต้องเรียนรู้ อาจห้ามไม่ได้ แต่จำเป็นต้องดูรายละเอียดความปลอดภัยและเตรียมแผนตรวจสอบเส้นทาง
รวมถึงจะประสานให้กรมการขนส่งทางบก มาตรวจสภาพรถก่อนทุกครั้ง และจะออกคำสั่งว่า รถที่จะนำมาใช้ในการทัศนศึกษา ต้องมีอายุไม่เกิน 5 ปี เพราะอุบัติเหตุครั้งนี้ พบว่า รถที่นำมาใช้เป็นรถเก่ามีอายุหลายสิบปี
พร้อมกันนี้ จะไปดูอายุเด็กเล็กและเด็กโต หากจำเป็นต้องไปทัศนศึกษาต้องใกล้บ้าน และให้ผู้ปกครองเดินทางไปด้วย เพราะเด็กเล็กยังช่วยเหลือตนเองไม่ได้ อีกทั้งจะต้องซักซ้อมแผนอพยพเมื่อมีเหตุฉุกเฉินให้นักเรียน
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : ch3plus.com/ne...
-------------------------
#เรื่องเล่าเช้านี้ (Morning News)
วันที่ 3 ตุลาคม 2567
ติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารก่อนใครได้ที่นี่
ch3plus : ch3plus.com/ne...
facebook : / morningnewstv3
Twitter : / morningnewstv3
KZitem : cutt.ly/Mornin...
Tiktok : / morningnewsch3
#3PlusNews #ข่าวช่อง3 #สรุยทธ #ไบรท์
Негізгі бет 'เจเศรษฐ์' สะอื้นกลางสภา - สส.ยืนไว้อาลัย ถกญัตติด่วน เหตุสลด 'ไฟไหม้รถบัส'
Пікірлер: 111