หลวงตาเล่าวิธีภาวนา แก้จิตเสื่อม ด้วยคำบริกรรม
"..ที่จิตเราเสื่อมก็เพราะเราไม่รู้จักวิธีรักษา เพราะเราไม่เคยเป็น ที่ว่าจิตเสื่อม..ดูเหมือนปีกับ ๕ เดือน หาวิธีใดก็มีแต่เจริญแล้วเสื่อมๆ
มันหมดทางจะไปแล้วก็จึงหันเข้ามาถึงเรื่องคำบริกรรม เราไม่ได้บริกรรม มีแต่ตั้งสติจ่อดูจิตมันเคลื่อนไหวไปไหน อาจเผลอได้แหละมันถึงได้เสื่อม ทีนี้จะมัดมันด้วยสติ ไม่ให้เผลอ เอาจุดนี้แทน ว่างั้นนะ ลงในจุดนี้เลย มันสดๆ ร้อนๆ ถึงได้เอามาพูดอยู่เรื่อยๆ เพราะลงใจแล้วว่าเราไม่มีคำบริกรรม ทีนี้จะเอาคำบริกรรมกับสติจ่ออยู่กับใจไม่ยอมให้มันคิดไปไหนเลย เรียกว่าไม่ให้คิดอะไรทั้งนั้น ให้อยู่กับนี้ เป็นกับตายก็อยู่ที่นี่ เอากัน ลงใจแล้ว ไม่มีทางไปแล้ว ตัดสินใจลงจุดคำว่าบริกรรมกับสติ ทีนี้จะให้ติดแนบกันตลอดจะไม่ยอมให้เผลอเลย..
ให้คิดกับพุทโธ ไม่ให้คิดไปอะไรเลย เปิดทางให้กับ พุทโธ อย่างเดียว ไม่เปิดทางให้ทางกิเลสว่างั้นเถอะ บริกรรมพุทโธๆ เอาคิดปรุง ปรุงกับพุทโธไม่ให้ปรุงกับเรื่องอะไรเลย สติจ่อ โอ๊ย ทุกข์มากนะ มันก็สบจังหวะ เป็นเวลาที่พ่อแม่ครูจารย์มั่นไปเผาศพพ่อแม่ครูจารย์เสาร์ ให้เราอยู่คนเดียว เลยพอดีกันเลยนะคนเดียว ทั้งวันไม่มีเผลอเลย วันไหนก็เอาอยู่อย่างนั้นไม่ยอมให้เผลอเลย..
พอคำบริกรรมได้ที่ของมันแล้ว คำบริกรรมพุทโธๆ นี้ละเอียดเข้าไปๆ จนกระทั่งคำบริกรรมพุทโธนี้กลมกลืนเป็นอันเดียวกันกับความรู้คือใจ ทีนี้บริกรรมพุทโธไม่มีเลย.. มีแต่ความรู้ละเอียด นึกพุทโธยังไงก็ไม่ออก.. มันไม่มีก็ไม่ต้องเอา ให้สติอยู่กับความรู้ที่เด่นๆ อยู่นี้ บริกรรมไม่ได้แต่ความรู้มีอยู่นี้ละเอียด ให้สติจ่ออยู่ตรงนั้น คือให้สติควบคุมความรู้นั้นแทนคำบริกรรม.."
โอวาทธรรม หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
Негізгі бет หลวงตาเล่าวิธีภาวนา แก้จิตเสื่อมด้วยคำบริกรรม - หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
Пікірлер: 18