การปล่อยชั่วคราวหรือการประกันตัว เป็นมาตรการทางกฎหมายที่พนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ หรือศาล แล้วแต่กรณี ปล่อยตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยไปชั่วกำหนดระยะเวลาหนึ่งในระหว่างการสอบสวน ไต่สวนมูลฟ้อง หรือพิจารณา
การปล่อยชั่วคราวหรือการประกันตัวมี ๓ กรณี
๑) ปล่อยโดยไม่มีประกัน หมายถึงการปล่อยโดยไม่ต้องมีสัญญาหรือไม่มีหลักประกันใดๆ เพียงแต่ให้ผู้ต้องหาหรือจำเลยสาบานหรือปฏิญาณตนว่าจะมาตามนัดหรือหมายเรียก
๒) ปล่อยโดยมีประกัน หมายถึงการปล่อยโดยมีสัญญาว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยจะมาตามนัดหรือหมายเรียก ถ้าไม่มาจะต้องเสียค่าปรับตามจำนวนเงินที่ตกลงกันไว้ในสัญญา
๓) ปล่อยโดยมีประกันหรือหลักประกัน หมายถึงนอกจากจะมีสัญญาประกันแล้วยังต้องมีหลักประกันด้วย เพื่อถ้าหากผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มาตามนัดหรือไม่มาตามหมายเรียก เจ้าพนักงานหรือศาลก็จะบังคับเอากับหลักประกันมาใช้เป็นค่าปรับได้
ผู้มีสิทธิยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวได้ คือ ผู้ต้องหา จำเลย หรือผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้อง เช่น บิดา มารดา บุตร สามี ภริยา ฯลฯ
การยื่นขอประกันตัวนั้น ต้องยื่นต่อ
๑) ถ้าผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวอยู่ยังไม่ได้ฟ้อง ก็ต้องยื่นต่อพนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการ (ถ้าคดีอยู่ที่พนักงานอัยการ)
๒) ถ้าผู้ต้องหาถูกนำตัวไปฝากขังต่อศาลแล้ว ต้องยื่นต่อศาลที่มีคำสั่งให้ขังผู้ต้องหาไว้
๓) ถ้ายื่นฟ้องต่อศาลแล้ว ก็ต้องยื่นต่อศาลชั้นต้น หรือศาลอุทธรณ์ หรือศาลอุทธรณ์ แล้วแต่กรณี กล่าวคือ
(๑) ถ้ายื่นฟ้องต่อศาลชั้นต้น ก็ต้องยื่นต่อศาลชั้นต้น
(๒) เมื่ออ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์แล้ว แต่ยังไม่มีการยื่นอุทธรณ์หรือฎีกา หรือเมื่อมีการยื่นอุทธรณ์หรือฎีกาแล้ว แต่ยังไม่ส่งสำนวนไปยังศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกาให้ยื่นต่อศาลชั้นต้นที่ชำระคดีนั้น ในกรณีนี้ถ้าศาลชั้นต้นเห็นสมควรให้ปล่อยชั่วคราว ให้ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาต มิฉะนั้นให้รีบส่งคำร้องพร้อมสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกาเพื่อสั่งแล้วแต่กรณี
๔) เมื่อศาลชั้นต้นส่งสำนวนไปยังศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกาแล้ว จะยื่นต่อศาลชั้นต้นที่ชำระคดีนั้น หรือจะยื่นต่อศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกา แล้วแต่กรณีก็ได้
ในกรณียื่นต่อศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นรีบส่งคำร้องไปให้ศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกาเพื่อสั่ง แล้วแต่กรณี
หลักประกันที่ต้องใช้ในการขอปล่อย มี ๓ ประเภท คือ
(๑) เงินสด
(๒) หลักทรัพย์อย่างอื่น
(๓) บุคคล
การขอถอนสัญญาประกันหรือขอถอนหลักประกัน ย่อมทำได้เมื่อผู้ทำสัญญามอบตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยเจ้าพนักงานหรือศาล
เมื่อคดีถึงที่สุดหรือความรับผิดตามสัญญาประกันหมดไปตามมาตรา ๑๑๖ หรือโดยเหตุอื่น ให้คืนหลักประกันแก่ผู้ที่ควรรับไป
หากศาลสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ผู้ร้องขอมีสิทธิยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งนั้นได้อีกครั้งหนึ่ง โดย
(๑) ถ้าเป็นคำสั่งไม่อนุญาตของศาลชั้นต้น ก็ให้อุทธรณ์ไปยังศาลอุทธรณ์ และ
(๒) ถ้าเป็นคำสั่งไม่อนุญาตของศาลอุทธรณ์ ก็ให้อุทธรณ์ไปยังศาลฎีกา
ให้ศาลชั้นต้นที่รับคำร้องอุทธรณ์คำสั่งนั้นจะรีบส่งคำร้องดังกล่าวพร้อมด้วยสำนวนความหรือสำเนาเท่าที่จำเป็นไปยังศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกา แล้วแต่กรณี
คำสั่งของศาลอุทธรณ์ที่ไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวยืนตามศาลชั้นต้น ให้เป็นที่สุด แต่ไม่ตัดสิทธิที่จะยื่นคำร้องของให้ปล่อยชั่วคราวใหม่
Негізгі бет กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ภาค ๑ ครั้งสุดท้าย (การปล่อยชั่วคราว) EP 16
Пікірлер: 3