#ขั้นตอนปฏิบัติตั้งแต่เริ่มต้น #จนถึงความหลุดพ้น #ปฏิจจสมุปบาทแห่งอาหารของวิชชาและวิมุตติ
ร่วมทำบุญ สนับสนุนแบบสมัครสมาชิกรายเดือนได้ที่ลิ้งนี้ครับ
► / @purifilmch
ติดตามรับชมได้ที่ :
KZitem : ► / @purifilmch
Facebook : ► / dhammatuensati
จัดทำ บรรยายเสียง โดย. ► (PURIFILM)
รับชม LIVE สด ได้ทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ เวลา 19.00 น.
สอบถามรายละเอียดได้ที่. ►โทร. 064-945-4441 (ภูริ)
อนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่เข้ามารับชมครับ
ปฏิจจสมุปบาทแห่งอาหารของวิชชาและวิมุตติ ๑
๑. สูตรที่ ๑-๒ ยมกวรรค ทสก.อํ. ๒๔/๑๒๒,๑๒๖/๖๑,๖๒.
๑. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เรากล่าวว่า
แม้วิชชาและวิมุตติ ก็เป็นธรรมชาติมีอาหาร
หาใช่เป็นธรรมชาติที่ไม่มีอาหารไม่.
ก็อะไรเล่า เป็นอาหารของวิชชาและวิมุตติ?
คำตอบพึงมีว่า “โพชฌงค์ทั้งหลาย ๗ ประการ” ดังนี้.
๒. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เรากล่าวว่า
ถึงแม้โพชฌงค์ทั้งหลาย ๗ ประการ ก็เป็นธรรมชาติมีอาหาร
หาใช่เป็นธรรมชาติที่ไม่มีอาหารไม่.
ก็อะไรเล่า เป็นอาหารของโพชฌงค์ทั้ง ๗ ประการ?
คำตอบพึงมีว่า “สติปัฏฐานทั้งหลาย ๔ ประการ” ดังนี้.
๓. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เรากล่าวว่า
ถึงแม้สติปัฏฐานทั้งหลาย ๔ ประการ ก็เป็นธรรมชาติมีอาหาร
หาใช่เป็นธรรมชาติที่ไม่มีอาหารไม่.
ก็อะไรเล่า เป็นอาหารของสติปัฏฐานทั้งหลาย ๔ ประการ?
คำตอบพึงมีว่า “สุจริตทั้งหลาย ๓ ประการ” ดังนี้.
๔. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เรากล่าวว่า
ถึงแม้สุจริตทั้งหลาย ๓ ประการ ก็เป็นธรรมชาติมีอาหาร
หาใช่เป็นธรรมชาติที่ไม่มีอาหารไม่.
ก็อะไรเล่า เป็นอาหารของสุจริตทั้งหลาย ๓ ประการ?
คำตอบพึงมีว่า “การสำรวมอินทรีย์” ดังนี้.
๕. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เรากล่าวว่า
ถึงแม้การสำรวมอินทรีย์ ก็เป็นธรรมชาติมีอาหาร
หาใช่เป็นธรรมชาติที่ไม่มีอาหารไม่.
ก็อะไรเล่า เป็นอาหารของการสำรวมอินทรีย์?
คำตอบพึงมีว่า “ความเป็นผู้มีสติสัมปชัญญะ” ดังนี้.
๖. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เรากล่าวว่า
ถึงแม้ความเป็นผู้มีสติสัมปชัญญะ ก็เป็นธรรมชาติมีอาหาร
หาใช่เป็นธรรมชาติที่ไม่มีอาหารไม่.
ก็อะไรเล่า เป็นอาหารของความเป็นผู้มีสติสัมปชัญญะ?
คำตอบพึงมีว่า “โยนิโสมนสิการ” ดังนี้.
๗. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เรากล่าวว่า
ถึงแม้โยนิโสมนสิการ ก็เป็นธรรมชาติมีอาหาร
หาใช่เป็นธรรมชาติที่ไม่มีอาหารไม่.
ก็อะไรเล่า เป็นอาหารของ โยนิโสมนสิการ?
คำตอบพึงมีว่า “สัทธา” ดังนี้.
๘. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เรากล่าวว่า
ถึงแม้สัทธา ก็เป็นธรรมชาติมีอาหาร
หาใช่เป็นธรรมชาติที่ไม่มีอาหารไม่.
ก็อะไรเล่า เป็นอาหารของสัทธา?
คำตอบพึงมีว่า “การได้ฟังพระสัทธรรม” ดังนี้.
๙. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย !
ถึงแม้การได้ฟังพระสัทธรรม ก็เป็นธรรมชาติมีอาหาร
หาใช่เป็นธรรมชาติที่ไม่มีอาหารไม่.
ก็อะไรเล่า เป็นอาหารของการได้ฟัง พระสัทธรรม?
คำตอบพึงมีว่า “การคบสัปบุรุษ” ดังนี้.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! ด้วยอาการอย่างนี้แล
๑. ที่เมื่อการคบสัปบุรุษเป็นไปบริบูรณ์แล้ว
ย่อมทำการได้ฟังพระสัทธรรมให้บริบูรณ์;
๒. การได้ฟังพระสัทธรรมบริบูรณ์แล้ว
ย่อมทำสัทธาให้บริบูรณ์;
๓. สัทธาบริบูรณ์แล้ว
ย่อมทำโยนิโสมนสิการให้บริบูรณ์;
๔. โยนิโสมนสิการบริบูรณ์แล้ว
ย่อมทำความเป็นผู้มีสติสัมปชัญญะให้บริบูรณ์;
๕. ความเป็นผู้มีสติสัมปชัญญะบริบูรณ์แล้ว
ย่อมทำการสำรวมอินทรีย์ให้บริบูรณ์;
๖. การสำรวมอินทรีย์บริบูรณ์แล้ว
ย่อมทำสุจริตทั้งหลาย ๓ ประการให้บริบูรณ์;
๗. สุจริตทั้งหลาย ๓ ประการบริบูรณ์แล้ว
ย่อมทำสติปัฏฐานทั้งหลาย ๔ ประการให้บริบูรณ์;
๘. สติปัฏฐานทั้งหลาย ๔ ประการบริบูรณ์แล้ว
ย่อมทำโพชฌงค์ทั้งหลาย ๗ ประการให้บริบูรณ์;
๙. โพชฌงค์ทั้งหลาย ๗ ประการบริบูรณ์แล้ว
ย่อมทำวิชชาและวิมุตติให้บริบูรณ์.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! อาหารแห่งวิชชาและวิมุตตินี้
ย่อมมีได้ด้วยอาการอย่างนี้
และบริบูรณ์แล้วด้วยอาการอย่างนี้.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เปรียบเหมือนเมื่อฝนหนักๆ ตกลงบนภูเขา,
น้ำฝนนั้นไหลไปตามที่ลุ่ม ย่อมทำซอกเขา ซอกผา
และลำห้วยทั้งหลาย ให้เต็ม;
ครั้นซอกเขาซอกผา และลำห้วยทั้งหลายเต็มแล้ว
ย่อมทำบึงน้อยทั้งหลายให้เต็ม;
บึงน้อยทั้งหลายเต็มแล้ว
ย่อมทำบึงใหญ่ทั้งหลายให้เต็ม;
บึงใหญ่ทั้งหลายเต็มแล้ว
ย่อมทำแม่น้ำน้อยทั้งหลายให้เต็ม;
แม่น้ำน้อยทั้งหลายเต็มแล้ว
ย่อมทำแม่น้ำใหญ่ทั้งหลายให้เต็ม;
แม่น้ำใหญ่ทั้งหลายเต็มแล้ว
ย่อมทำมหาสมุทรสาครให้เต็ม.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! อาหารแห่งมหาสมุทรสาครนั้น
ย่อมมีได้ด้วยอาการอย่างนี้
และเต็มแล้วด้วยอาการอย่างนี้, นี้ฉันใด;
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! ข้อนี้ก็ฉันนั้น กล่าวคือ
๑. การคบสัปบุรุษบริบูรณ์แล้ว
ย่อมทำการได้ฟังพระสัทธรรมให้บริบูรณ์;
๒. การได้ฟังพระสัทธรรมบริบูรณ์แล้ว
ย่อมทำสัทธาให้บริบูรณ์;
๓. สัทธาบริบูรณ์แล้ว
ย่อมทำโยนิโสมนสิการให้บริบูรณ์;
๔. โยนิโสมนสิการบริบูรณ์แล้ว
ย่อมทำความเป็นผู้มีสติสัมปชัญญะให้บริบูรณ์;
๕. ความเป็นผู้มีสติสัมปชัญญะบริบูรณ์แล้ว
ย่อมทำการสำรวมอินทรีย์ให้บริบูรณ์;
๖. การสำรวมอินทรีย์บริบูรณ์แล้ว
ย่อมทำสุจริตทั้งหลาย ๓ ประการให้บริบูรณ์;
๗. สุจริตทั้งหลาย ๓ ประการบริบูรณ์แล้ว
ย่อมทำสติปัฏฐานทั้งหลาย ๔ ประการให้บริบูรณ์;
๘. สติปัฏฐานทั้งหลาย ๔ ประการบริบูรณ์แล้ว
ย่อมทำโพชฌงค์ทั้งหลาย ๗ ประการให้บริบูรณ์;
๙. โพชฌงค์ทั้งหลาย ๗ ประการบริบูรณ์แล้ว
ย่อมทำวิชชาและวิมุตติให้บริบูรณ์.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! อาหารแห่งวิชชาและวิมุตตินี้
ย่อมมีได้ด้วยอาการอย่างนี้
และบริบูรณ์แล้วด้วยอาการอย่างนี้, ดังนี้ แล.
สูตรที่ ๑-๒ ยมกวรรค ทสก.อํ. ๒๔/๑๒๒,๑๒๖/๖๑,๖๒.
ปฏิจจสมุปบาทจากพระโอษฐ์ หน้าที่ ๖๒๘
Негізгі бет ขั้นตอนปฏิบัติตั้งแต่เริ่มต้น จนถึงความหลุดพ้น ปฏิจจสมุปบาทแห่งอาหารของวิชชาและวิมุตติ
Пікірлер