ฎีกา InTrend Ep.148 ผู้เอาประกันภัยไม่ได้ลงลายมือชื่อในคำขอเอาประกันและระบุผู้รับประโยชน์ที่ไม่มีตัวตน ผู้รับประกันภัยยังต้องรับผิดอยู่หรือไม่
The Host : กองสารนิเทศและประชาสัมพันธ์ สำนักงานศาลยุติธรรม
Guest Host : สรวิศ ลิมปรังษี
ที่ปรึกษา : สรวิศ ลิมปรังษี, สุริยัณห์ หงษ์วิไล, ทัสสญุชุ์ กุลสิทธิ์ชัยญา, ณัฐสิมา อนันทนุพงศ์
Show Creator : ศณิฏา จารุภุมมิก
Episode Producer & Editor : ศณิฏา จารุภุมมิก, รวิภา กิ่งจักร์
Sound Designer & Engineer : กฤตภาส ทองแจ้ง, กิติชัย โล่สุวรรณ
Coordinator & Admin : โสรัตน์ ไวศยดำรง, สุพัตรา ขำมีศักดิ์, สุภาวัชร์ ดลมินทร์
Art Director : สุภาวัชร์ ดลมินทร์, ปันจารีณ์ สุวรรณโภชน์, กนกกูล วสยางกูร
Webmaster : ผุสชา เรืองกูล, วชิระ โรจน์สุธีวัฒน์
การทำประกันชีวิตไว้เป็นเรื่องที่มีประโยชน์สำหรับหลายคน เพราะทำให้เป็นหลักประกันในยามที่เกิดเหตุที่ไม่คาดหมายขึ้น แต่การทำสัญญาชนิดนี้ก็คงเหมือนกันสัญญาทางกฎหมายอีกหลายชนิดที่อาจมีข้อกำหนดทางกฎหมายกำหนดเงื่อนไขและหลักเกณฑ์บางอย่างไว้ ทำให้เมื่อเกิดเหตุขึ้นกลายเป็นข้อโต้แย้งกันว่าแต่ละฝ่ายจะมีสิทธิเรียกร้องหรือความรับผิดกันมากน้อยเพียงใด ปัญหาที่จะนำมากล่าวถึงในตอนนี้จะเป็นกรณีที่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าลายมือชื่อในคำขอเอาประกันไม่ใช่ลายมือชื่อของผู้เอาประกันชีวิตและผู้รับประโยชน์ตามสัญญาก็ไม่มีตัวตน ผู้รับประกันภัยยังจะต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาอยู่อีกหรือไม่
นายศุกร์ได้ฟ้องบริษัทประกันชีวิตให้รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ประกันชีวิต โดยอ้างว่านายเสาร์ บิดาของตนได้ทำสัญญาประกันชีวิตไว้ตามที่ตัวแทนของบริษัทประกันได้มาเสนอขาย และได้ชำระเบี้ยประกันชีวิตให้แก่บริษัทแล้วรวมสามปี ต่อมานายเสาร์ได้เสียชีวิต บริษัทประกันชีวิตจึงต้องรับผิดตามสัญญา
บริษัทประกันชีวิตแห่งนั้นไม่ยอมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ โดยอ้างว่าเมื่อตรวจสอบลายมือชื่อในคำขอเอาประกันชีวิตแล้วไม่ใช่ลายมือชื่อของนายเสาร์ และตามคำขอเอาประกันชีวิตยังระบุผู้รับประโยชน์ชื่อนายอาทิตย์ แต่ปรากฏว่านายอาทิตย์ไม่มีตัวตนอยู่จริง การที่บริษัทออกกรมธรรม์ให้ไปจึงเป็นการสำคัญผิดในตัวบุคคลที่ทำนิติกรรมด้วย บริษัทจึงไม่ต้องผูกพันตามสัญญาและไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่นายศุกร์
ในกรณีของสัญญาประกันภัยนั้น ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 867 กำหนดไว้ว่าต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดเป็นสำคัญจึงจะฟ้องร้องบังคับคดีได้ โดยตามมาตราดังกล่าวไม่ได้กำหนดเรื่องของคำขอเอาประกันไว้เป็นพิเศษว่าเป็นเอกสารหลักฐานที่ต้องมีจึงจะทำให้สัญญาประกันภัยมีผลใช้บังคับได้ การที่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าลายมือชื่อในคำขอเอาประกันภัยไม่ใช่ลายมือชื่อของผู้เอาประกันภัยจึงไม่มีผลทำให้สัญญาประกันภัยกลายเป็นไม่สมบูรณ์หรือไม่มีผลบังคับไปด้วยผลของข้อเท็จจริงนี้
ปัญหาสำคัญจึงอยู่ที่ว่าการทำสัญญาประกันภัยรายนี้ ทั้งสองฝ่ายคือฝ่ายของนายเสาร์และบริษัทประกันชีวิตได้แสดงเจตนาที่จะทำสัญญาประกันภัยรายนี้ไว้อย่างถูกต้องตรงกันหรือไม่ แม้ลายมือชื่อในคำขอเอาประกันจะไม่ใช่ลายมือชื่อของนายเสาร์ แต่เมื่อนายเสาร์ได้รับกรมธรรม์จากบริษัท นายเสาร์ก็ไม่เคยโต้แย้งว่ากรมธรรม์ดังกล่าวไม่ถูกต้อง แถมนายเสาร์เองยังชำระค่าเบี้ยประกันให้แก่บริษัทต่อมาอีกสามปี ย่อมเป็นการแสดงให้เห็นในตัวว่านายเสาร์มีเจตนาที่จะเข้าทำสัญญาประกันภัยรายนี้
ในส่วนของบริษัทที่อ้างว่าการทำสัญญาประกันภัยเป็นการสำคัญผิดในตัวบุคคล แต่การที่ลายมือชื่อในคำขอไม่ใช่ลายมือชื่อของนายเสาร์ก็ไม่ใช่ข้อเท็จจริงที่จะทำให้เกิดการสำคัญผิดได้ เพราะบริษัทประกันเองก็ออกกรมธรรม์ให้แก่นายเสาร์ ไม่ได้เข้าใจว่ากำลังรับประกันให้แก่บุคคลอื่น จึงไม่ได้มีกรณีของการสำคัญผิดในตัวบุคคลเกิดขึ้นแต่อย่างใด การที่ลายมือชื่อในคำขอไม่ใช่ลายมือชื่อของนายเสาร์จึงไม่ใช่เหตุที่จะทำให้สัญญาไม่มีผลผูกพัน
ในทางตรงกันข้าม การที่บริษัทออกกรมธรรม์ประกันภัยให้แก่นายเสาร์ กรมธรรม์ย่อมเป็นหลักฐานเป็นหนังสืออย่างหนึ่งตามที่มาตรา 867 กำหนดไว้ และกรณีเป็นเรื่องความรับผิดของฝ่ายบริษัทประกันภัย การมีหลักฐานเป็นหนังสือที่มีลายมือชื่อของฝ่ายบริษัทที่จะต้องรับผิดย่อมเป็นหลักฐานที่เพียงพอที่จะฟ้องร้องดำเนินคดีได้แล้ว
ปัญหาประการต่อมาที่บริษัทประกันยกขึ้นอ้างคงเป็นเรื่องการที่ผู้รับประโยชน์ซึ่งระบุเป็นชื่อนายอาทิตย์ไว้ไม่มีตัวตนจริง ๆ ว่าจะมีผลต่อความรับผิดของบริษัทประกันอย่างไร
การที่นายอาทิตย์ไม่มีตัวตนอยู่จริงมีผลเสมือนกับว่าคำขอเอาประกันไม่ได้ระบุผู้รับประโยชน์ไว้ ผลประโยชน์ที่จะได้ตามสัญญาย่อมตกเป็นส่วนหนึ่งของกองทรัพย์สินของผู้เอาประกันตามมาตรา 897 บริษัทประกันชีวิตจึงยังไม่พ้นความรับผิดไปเพียงเพราะเหตุที่คำขอเอาประกันระบุชื่อบุคคลที่ไม่มีตัวตนอยู่จริง
ดังนั้น การที่ในคำขอเอาประกันไม่มีลายมือชื่อของผู้เอาประกันอยู่และระบุบุคคลที่ไม่มีตัวตนอยู่จริง ไม่มีผลให้สัญญาประกันชีวิตนั้นไม่สมบูรณ์ บริษัทประกันยังคงต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่กองมรดกของผู้เอาประกัน
(คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1804/2565)
Негізгі бет ฎีกา InTrend Ep.148 ผู้เอาประกันภัยไม่ได้ลงลายมือชื่อในคำขอเอาประกันและระบุผู้รับประโยชน์ที่ไม่มี...
Пікірлер: 1