ประวัติ : ครูไพบูลย์ บุตรขัน
ครูไพบูลย์ บุตรขัน เดิมชื่อ ไพบูลย์ ประณีต เกิดที่บ้านท้องคุ้ง ตำบลเชียงรากใหญ่ อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี เป็นบุตรของนายบุตร และนางพร้อม ประณีต ครอบครัวมีอาชีพทำนา มีฐานะยากจน มีพี่น้อง 3 คน เมื่ออายุได้ 6 ปี บิดาเสียชีวิต จึงได้รับการเลี้ยงดูโดยนายเจน บุตรขัน ผู้เป็นอา นำไปอยู่ที่อำเภอปทุมวัน กรุงเทพ และได้เปลี่ยนนามสกุลจากประณีต มาเป็นบุตรขัน
ไพบูลย์ บุตรขัน เริ่มศึกษาชั้นประถมต้นที่จังหวัดปทุมธานี ประถมปลายที่โรงเรียนสตรีปทุมวัน และศึกษาจนจบมัธยม 8 ที่โรงเรียนสวัสดิ์อำนวยเวทย์ กรุงเทพ และศึกษาดนตรีเพิ่มเติมจากครูพิณ โปร่งแก้วงาม ราวปี พ.ศ. 2476-2478 และเรียนวิชาดนตรีและโน้ตเพลงสากลเพิ่มเติมที่สมาคมวายเอ็มซีเอ แถบถนนวรจักร และได้ใช้โน้ตดนตรีประกอบการแต่งเพลงทุกครั้งตั้งแต่นั้นมา
หลังจากเรียนจบ ไพบูลย์ บุตรขัน ได้ทำงานเป็นครูสอนภาษาไทยที่โรงเรียนกว๋องสิว แล้วลาออกไปทำงานเป็นช่างไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าสามเสน แล้วลาออกไปทำงานกับคณะละคร คณะแม่แก้ว และคณะจันทโรภาส ของพรานบูรพ์ ทำหน้าที่เขียนบทละครวิทยุ และแต่งเพลง
งานเพลงของไพบูลย์ บุตรขัน เริ่มบันทึกแผ่นเสียงเมื่อประมาณ พ.ศ. 2490 จากการชักนำของ สวัสดิภาพ บุนนาค ซึ่งเป็นเพื่อนและน้องเขย เพลงในยุคแรกได้แก่เพลง "มนต์เมืองเหนือ" "คนจนคนจร" "ดอกไม้หน้าพระ" "ดอกไม้หน้าฝน" และ "ค่าน้ำนม" และได้รับการยกย่องว่าเป็นงานที่มีคุณค่า และได้รับรางวัลแผ่นเสียงทองคำพระราชทาน เช่น "โลกนี้คือละคร" (ขับร้องโดย ปรีชา บุณยะเกียรติ) "เบ้าหลอมดวงใจ" และ "มนต์รักลูกทุ่ง" (ขับร้องโดย ไพรวัลย์ ลูกเพชร) "ฝนเดือนหก" (ขับร้องโดย รุ่งเพชร แหลมสิงห์) "ยมบาลเจ้าขา" (ขับร้องโดย บุปผา สายชล)
"กลิ่นโคลนสาปควาย" (แต่งขึ้นในปี พ.ศ. 2496 ขับร้องโดยชาญ เย็นแข) เป็นอีกผลงานชิ้นสำคัญชิ้นหนึ่งของของไพบูลย์ บุตรขัน ที่ทางราชการไทยเคยประกาศห้ามเปิดในช่วงการปราบปรามคอมมิวนิสต์ แม้จะมีการห้ามจากทางการแต่ยิ่งห้ามก็มีผู้ฟังซื้อแผ่นเสียงไปฟังเป็นจำนวนมาก เพลงนี้ยังได้รับยกย่องให้เป็นรากฐานของเพลงลูกทุ่งอีกด้วยเพราะในอดีตก่อน พ.ศ. 2500 นั้นเพลงในประเทศไทยยังมิได้แบ่งแยก ยุคสมัยที่ยังไม่ได้มีการแบ่งแยกเพลงลูกกรุงและเพลงลูกทุ่งออกจากกันอย่างชัดเจน[4]
หลังจากเสียชีวิตไปแล้วหลายปี ในปี พ.ศ. 2532 เพลงของครูไพบูลย์ ได้รับรางวัลพระราชทานในงานกึ่งศตวรรษเพลงลูกไทย ถึง 10 เพลง ได้แก่ "ชายสามโบสถ์" (ขับร้องโดย คำรณ สัมบุญณานนท์) "น้ำตาเทียน" (ขับร้องโดย ทูล ทองใจ) "บ้านไร่นารัก" และ "เพชรร่วงในสลัม" (ขับร้องโดย ชินกร ไกรลาศ) "ฝนซาฟ้าใส" (ขับร้องโดย ยุพิน แพรทอง) "ฝนเดือนหก" (ขับร้องโดย รุ่งเพชร แหลมสิงห์) "บุพเพสันนิวาส" และ "มนต์รักแม่กลอง" (ขับร้องโดย ศรคีรี ศรีประจวบ) "มนต์รักลูกทุ่ง" (ขับร้องโดย ไพรวัลย์ ลูกเพชร) และ "ยมบาลเจ้าขา" (ขับร้องโดย บุปผา สายชล) และในปี พ.ศ. 2534 ได้รับรางวัลจากเพลง "หนุ่มเรือนแพ" (ขับร้องโดย กาเหว่า เสียงทอง)
ศิลปิน : ไพรวัลย์ ลูกเพชร, ศรคีรี ศรีประจวบ, ชาญ เย็นแข,
ปรีชา บุญญเกียรติ, รุ่งเพชร แหลมสิงห์, บุปผา สายชล,
นริศ อารีย์, ชาตรี ศรีชล, กาเหว่า เสียงทอง, ระพิณ ภูไท, คำรณ สัมบุญณานนท์
อัลบั้ม : คีตกวีลูกทุ่งไทย รำลึกครูไพบูลย์ บุตรขัน
♪ ฝากกดติดตามช่องของเรา ♪
♪ รวมเพลงลูกทุ่งเก่าๆเพราะๆ ♪
♪ รวมเพลงลูกทุ่งอมตะ ♪
★★★★★★★★★★★★★
#รวมเพลงลูกทุ่ง #ลูกทุ่งเก่าๆ #รวมเพลงลูกทุ่งเพราะๆ
#รวมเพลงลูกทุ่งอมตะ #เพลงลูกทุ่งอมตะ
เพลง :
01. มนต์รักลูกทุ่ง (ไพรวัลย์ ลูกเพชร)
02. บุพเพสันนิวาส (ศรคีรี ศรีประจวบ)
03. กลิ่นโคลนสาบควาย (ชาญ เย็นแข)
04. ขวัญใจคนจน (ปรีชา บุญญเกียรติ)
05. น้ำลงเดือนยี่ (รุ่งเพชร แหลมสิงห์)
06. ยมบาลเจ้าขา (บุปผา สายชล)
07. ขี้เหร่ก็รัก (ศรคีรี ศรีประจวบ)
08. ค่าน้ำนม (ชาญ เย็นแข)
09. ถึงแม้พี่จะขี้เมา (นริศ อารีย์)
10. แม่ศรีเรือน (ชาญ เย็นแข)
11. โลกนี้คือละคร (ปรีชา บุญญเกียรติ)
12. เมาเหล้าเมารัก (ชาตรี ศรีชล)
13. มนต์รักแม่กลอง (ศรคีรี ศรีประจวบ)
14. ฝนเดือนหก (รุ่งเพชร แหลมสิงห์)
15. หนุ่มเรือนแพ (กาเหว่า เสียงทอง)
16. โธ่! คนอย่างเรา (ระพิณ ภูไท)
17. เสือสำนึกบาป (คำรณ สัมบุญณานนท์)
Негізгі бет คีตกวีลูกทุ่งไทย รำลึก ครูไพบูลย์ บุตรขัน [ มนต์รักลูกทุ่ง - ค่าน้ำนม - ฝนเดือนหก - มนต์รักแม่กลอง ]
Пікірлер: 47