ความหวังของ #ลาว ที่จะขายไฟฟ้าให้สิงคโปร์โดยตรงอาจล้มเหลว
บริบทของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานในลาว
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) มีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และได้มุ่งเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพลังงานไฟฟ้าจากพลังน้ำ ลาวได้สร้างเขื่อนหลายแห่งเพื่อผลิตไฟฟ้าจำหน่ายในประเทศและส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ไทยและเวียดนาม โดยความหวังสำคัญคือการขยายตลาดการส่งออกไฟฟ้าไปยังประเทศที่มีความต้องการสูง เช่น #สิงคโปร์ ์
ความพยายามในการส่งออกไฟฟ้าไปยังสิงคโปร์
ลาวมีแผนการที่จะส่งออกไฟฟ้าไปยังสิงคโปร์โดยตรงผ่านสายส่งที่ต้องผ่าน#ประเทศไทย แผนการนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการขยายตลาดพลังงานไฟฟ้าของลาว เนื่องจากสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีความต้องการพลังงานสูงและมีการพัฒนาเทคโนโลยีที่สูงกว่า ดังนั้นการเป็นผู้ส่งออกพลังงานไฟฟ้าให้กับสิงคโปร์จะนำมาซึ่งรายได้และการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่สำคัญสำหรับลาว
ปัญหาและอุปสรรคในการส่งออกไฟฟ้า
อย่างไรก็ตาม แผนการนี้ต้องเผชิญกับอุปสรรคสำคัญเมื่อประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศที่ต้องผ่านทางของสายส่งไฟฟ้าดังกล่าวได้ยับยั้งการส่งไฟฟ้าผ่านสายส่งของไทยโดยตรง โดยมีการกำหนดเงื่อนไขว่าหากลาวต้องการใช้สายส่งไฟฟ้าของไทย จะต้องขายไฟฟ้าผ่านประเทศไทยเท่านั้น ไม่ใช่ส่งไฟฟ้าโดยตรงไปยังสิงคโปร์
การตอบสนองของสิงคโปร์
ในขณะเดียวกัน สิงคโปร์ซึ่งไม่ต้องการเสียเวลารอการเจรจาหรือการพัฒนาสายส่งไฟฟ้าใหม่ ได้ดำเนินการอย่างรวดเร็วโดยการอนุมัติการซื้อไฟฟ้าจากออสเตรเลียผ่านสายเคเบิลใต้ทะเลยาวถึง 4,300 กิโลเมตร โดยทุ่มงบลงทุนถึง 190,000 ล้านบาท นี่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของสิงคโปร์ในการหาพลังงานทดแทนและความเชื่อมั่นในเทคโนโลยีสายเคเบิลใต้ทะเลที่มีประสิทธิภาพสูง
ผลกระทบต่อเศรษฐกิจลาว
การที่ลาวไม่สามารถส่งออกไฟฟ้าไปยังสิงคโปร์ได้โดยตรงมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากลาวต้องพึ่งพารายได้จากการส่งออกพลังงานไฟฟ้าเป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจ การถูกจำกัดการส่งออกในครั้งนี้ทำให้ต้องพึ่งพาตลาดในประเทศเพื่อนบ้านอย่างไทยและเวียดนามซึ่งมีราคาซื้อขายที่ต่ำกว่าตลาดสิงคโปร์
ทางออกและข้อเสนอแนะ
สำหรับลาวที่จะผ่านพ้นอุปสรรคนี้ไปได้ จำเป็นต้องเจรจากับประเทศไทยอย่างจริงจังเพื่อหาทางออกที่เป็นธรรมและเป็นประโยชน์ทั้งสองฝ่าย นอกจากนี้ ลาวยังควรพิจารณาในการพัฒนาเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานอื่น ๆ เช่น พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม เพื่อเป็นการกระจายแหล่งพลังงานและลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาพลังงานจากพลังน้ำเพียงอย่างเดียว
การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงานที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืนจะช่วยให้ลาวสามารถเข้าถึงตลาดพลังงานระดับโลกได้มากขึ้น และส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและการพัฒนาของประเทศในระยะยาว
"แบตเตอรี่แห่งอาเซียน"
ยุทธศาสตร์สำคัญของ สปป.ลาว
หนึ่งในจุดยืนทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญของ สปป.ลาว คือการเป็น "แบตเตอรี่แห่งอาเซียน" โดยลาวตั้งเป้าหมายให้ประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลนี้กลายเป็นแหล่งผลิตพลังงานไฟฟ้าขนาดใหญ่ เพื่อป้อนให้กับประเทศสมาชิกที่อยู่รายรอบ ได้แก่ ไทย เวียดนาม กัมพูชา เมียนมา รวมถึงประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของเอเชียอย่างจีน ซึ่งลาวคาดหวังให้กลายเป็น "ลูกค้า" รายใหญ่ในการซื้อไฟฟ้าจากลาว ในปัจจุบันลาวมีโรงไฟฟ้าและเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้ามากมายที่สามารถตอบสนองความต้องการไฟฟ้าของประเทศเพื่อนบ้าน
ขีดความสามารถในการผลิตไฟฟ้าของลาว
ลาวมีขีดความสามารถในการผลิตไฟฟ้าที่น่าประทับใจ ปัจจุบันลาวมีโรงไฟฟ้าจำนวน 94 แห่ง มีกำลังการผลิตติดตั้งรวมถึง 11,661 เมกะวัตต์ และสามารถผลิตไฟฟ้าได้สูงถึง 58,813 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี โรงไฟฟ้าพลังน้ำจากเขื่อนต่าง ๆ ที่กั้นลำน้ำในทาวทั้งน้อยใหญ่มีจำนวนมากถึง 77 แห่ง หรือคิดเป็น 81% ของโรงไฟฟ้าทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มที่จะมีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มเติมในอนาคต เพื่อตอบสนองความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นของภูมิภาค
ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
การก่อสร้างโรงไฟฟ้าและเขื่อนพลังน้ำในลาวต้องใช้ทรัพยากรธรรมชาติมหาศาล ซึ่งก่อให้เกิดคำถามและความกังวลจากนานาชาติเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการสร้างเขื่อนกั้นลำน้ำโขงซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งน้ำที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก การเปลี่ยนแปลงลำน้ำโขงจากการสร้างเขื่อนนี้มีผลกระทบต่อระบบนิเวศและความเป็นอยู่ของชุมชนที่อาศัยอยู่ริมน้ำเป็นจำนวนมาก
ความต้องการไฟฟ้าของสิงคโปร์
แม้สิงคโปร์จะตั้งอยู่ไกลจากลาว แต่ก็มีความต้องการซื้อไฟฟ้าจากลาวเช่นกัน มีรายงานว่าลาวเตรียมขายไฟฟ้าขนาด 100 เมกะวัตต์ให้กับสิงคโปร์ ภายใต้โครงการบูรณาการพลังงาน สปป.ลาว-ไทย-มาเลเซีย-สิงคโปร์ (LTMS-PIP) เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานในภูมิภาค
ข้อตกลงการจัดซื้อพลังงาน
ข้อตกลงการจัดซื้อพลังงานนี้เป็นการลงนามซื้อขายไฟฟ้าระหว่างการไฟฟ้าลาว (EDL) และ Keppel Electric บริษัทผู้ขายไฟฟ้าแก่ภาคครัวเรือนของสิงคโปร์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Keppel Infrastructure Holdings พิธีลงนามข้อตกลงทางการค้านี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2564 เป็นการสร้างความร่วมมือในระดับภูมิภาคและเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานในอาเซียน
#เรื่องเล่าจากบันทึก เล่าเรื่องต่างๆที่มีสาระและน่าสนใจ ประวัติศาสตร์ ประวัติบุคคลสำคัญต่างๆ รวมถึงธรรมะคำสอนต่างๆ
Негізгі бет ลาวเจอบทเรียนครั้งใหญ่..!! ไทยไม่ให้ผ่านไฟฟ้าไปขายสิงคโปร์
Пікірлер: 1,7 М.