เปิดใจอุสตาส มุกตาร์ วาเลาะ ครูสอนศาสนา โรงเรียนวัฒนธรรมอิสลาม ต.พ่อมิ่ง อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ถูกควบคุมตัวเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2562
ก่อนหน้านี้หนึ่งวันเกิดเหตุยิงอุสตาสโรงเรียนเดียวกัน คือนาย ยูโซะ ยะลา
อุสตาสสอนวิชาศาสนาและสอนจริยธรรม
โรงเรียนวัฒนธรรมอิสลามเป็นโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม และโรงเรียนประจำ (ปอเนาะ)
ยิงครูที่พ่อมิ่ง: สัญญาณปัญหาใหญ่ที่ชายแดนใต้
ท่ามกลางการหาเหตุเบี่ยงเบนประเด็นอย่างพัลวัลของของฟากรัฐต่อกรณีคนร้ายและแรงจูงใจทำร้ายจ่านิว ในพื้นที่เมืองหลวงของประเทศ
ที่ชายแดนใต้ นอกจากความพยายามละเมิดสิทธิประชาชนด้วยการบังคับให้ลงทะเบียนซิมการ์ด(กับหน่วยงานความมั่นคงอีกชั้น) ปัญหาความรุนแรงแบบเดิมๆ ก็ยังปรากฏ
การบุกยิงอุซตาส(ครู)ในโรงเรียนวัฒนธรรมอิสลาม หรือปอเนาะพ่อมิ่งเมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา กำลังจะเป็นการสุมไฟความรุนแรงระลอกใหม่ เพราะเป็นเหตุอุกอาจสะเทือนขวัญอย่างยิ่ง ที่ครูถูกบุกยิงถึงบ้านพักภายในโรงเรียน
ก่อนหน้านี้มีครูไทยพุทธเคยถูกบุกยิงเสียชีวิตคาโรงเรียน นี่จึงเป็นเหตุแรกๆ ที่ครูปอเนาะถูกบุกยิงถึงบ้านพักในโรงเรียน จึงสะท้อนว่า บุคลากรการศึกษาไม่ว่าใครก็ไม่มีความปลอดภัยทั้งสิ้น
แต่รุ่งขึ้น หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่รีบปฏิเสธว่า ไม่ใช่ฝีมือของเจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐ ทั้งที่ชาวบ้านยังคาใจว่า การสอบสวนได้เกิดขึ้นหรือยัง เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ทันเก็บรวบรวมพยานหลักฐานเสร็จ เหตุใดจึงรีบออกมาปฏิเสธ
การรีบเร่งปฏิเสธ ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กระหึ่ม แต่แทนที่จะทำให้การสืบสวนสอบสวนดูโปร่งใส ไม่ให้ชาวบ้านเกิดความไม่ไว้วางใจ อยู่ๆ วันนี้ (2 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ความมั่นคงก็บุกควบคุมตัวอุซตาสในโรงเรียน และน้องเขยของอุซตาสที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บก่อนหน้านี้ ต่อหน้าสายตานักเรียนนับพันคนไปสอบสวนที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร (บ่อทอง) โดยที่ถึงตอนนี้ครูในโรงเรียน และชาวบ้านยังไม่รู้ชะตากรรมคนที่ถูกควบคุมตัว
มีเพื่อนชาวมลายูมุสลิมของผมตั้งข้อสังเกตว่า ในจังหวะนี้ หากปอเนาะพ่อมิ่งจัดงานเลี้ยงข้าวยำ คนจะแห่ไปร่วมยิ่งกว่าตอนปอเนาะญีฮาดจัดเลี้ยงเสียอีก
จำเรื่องปอเนาะญีฮาดได้ไหมครับ เรื่องราวมหากาพย์ของการเล่นงานปอเนาะแห่งหนึ่งที่ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ทั้งกล่าวหาว่าเป็นแหล่งบ่มเพาะนักรบฟาฏอนี เจออาวุธปืนในโรงเรียน สุดท้ายเมื่อหลักฐานทั้งหมดเอาผิดไม่ได้ ก็ใช้ลูกเล่นทางกฏหมายบังคับยึดที่ดินทีี่ของโรงเรียน ชาวบ้านรู้สึกเจ็บปวด เพราะก่อนหน้านี้เห็นความพยายามของภาครัฐที่จะทะลุทะลวงโรงเรียนปอเนาะอันเป็นดั่งแหล่งถ่ายทอดจิตวิญญาณของมลายูมุสลิม จึงมีการจัดเลี้ยงข้าวยำน้ำชาขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม 2559 มีคนไปร่วมงานกว่า 5 หมื่นคน มียอดเงินบริจาคระดมทุนได้กว่า 4 ล้านบาท
มันสะท้อนอะไรบ้างครับ?
อย่างแรกคือ คนมลายูกำลังรู้สึกว่า หน่วยงานภาครัฐกำลังรุกไล่โรงเรียนปอเนาะที่ยังบริหารจัดการแบบดั้งเดิม อยากเข้าไปควบคุม และปรับเปลี่ยนทิศทางการศึกษาภายใน อย่างที่สองคือความรู้สึกไม่พอใจของผู้คนในประชาคมต่างๆ ของชายแดนใต้ต่อการกระทำของรัฐ
การเล่นงานปอเนาะ สร้างภาพให้เป็นแหล่งซ่องสุมบ่มเพาะแนวร่วมขบวนการก่อความไม่สงบ ซึ่งหน่วยความมั่นคงพยายามเล่นประเด็นนี้มาตลอดตั้งแต่ปี 2547 ทั้งที่ในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด เห็นได้ถึงความตื่นตัวทางการเมืองของคนชายแดนใต้ แสดงว่าพวกเขามีความหวังต่อการเปลี่ยนแปลงโดยการเมือง ไม่ใช่ด้วยความรุนแรง
แต่วิธีแก้ปัญหาของหน่วยงานความมั่นคงก็เหมือนเดิม แทบไม่ได้เปลี่ยนอะไรไปเลย มีข้อมูลหรือจับกุมอดีตศิษย์เก่าบางคนได้ก็เหมารวมทั้งปอเนาะว่าเป็นแหล่งซ่องสุม ทั้งที่มีเยาวชนผ่านการศึกษาในรั้วปอเนาะชายแดนใต้ปีนึงๆ หลายหมื่นคน มีอุซตาสที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการก่อความไม่สงบเพียง 0.01 เปอร์เซ็นต์ในสายตาของหน่วยงานความมั่นคงก็กลายเป็นแหล่งซ่องสุมได้
ปอเนาะพ่อมิ่ง มีชื่ออยู่ในแบล็คลิสต์ของหน่วยงานความมั่นคงมานานแล้ว เพราะพบข้อมูลว่ามีศิษย์เก่าเข้าร่วมขบวนการก่อความไม่สงบ ขณะที่บุคคลากรของโรงเรียน ทั้งครู ทั้งนักเรียน ถูกคนร้ายในเงามืดยิงเสียชีวิตไปแล้วหลายศพ(แน่นอนว่าจับกุมตัวไม่ได้) อุซตาสในโรงเรียนเคยถูกควบคุมตัวสอบสวนมาแล้วหลายคน ปอเนาะเคยบุกตรวจค้นมาแล้วหลายรอบ แต่ก็ยังไม่สามารถเข้าไปควบคุมดูแลปอเนาะแห่งนี้ได้
ซึ่งแน่นอนว่า ทั้งหมดนั้น สายตาของผู้คนทั้งชายแดนใต้ที่เฝ้ามองอยู่ กำลังรู้สึกว่า การเมืองที่กรุงเทพฯ ผ่านมาแล้วสามเดือนและยังตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ ยังมีหวังอะไรได้อีกต่อชะตากรรมของคนชายแดนใต้
ซึ่งแบบนี้แหละที่ยิ่งน่ากลัว.
cr.ณรรธราวุธ เมืองสุข
Негізгі бет เปิดใจอุสตาส มุกตาร์ วาเลาะ
Пікірлер: 64