‘แพทองธาร’ มุ่งมั่นเดินหน้าสร้าง Soft Power ยกระดับชีวิตคนไทย ผลักดันการพัฒนาศักยภาพ ‘คน-อุตสาหกรรม-นโยบายต่างประเทศเชิงรุก’ ส่งออกวัฒนธรรมไทยสู่สายตาชาวโลก
- - - - - -
ถ้าพูดถึงประเทศต่างๆ ที่เรานึกถึง หากเป็นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว เราจะพูดในเรื่องของเทคโนโลยี ซึ่งประเทศญี่ปุ่นจะได้รับการยอมรับเป็นอย่างมาก แต่ในช่วง 10 ปีหลังมานี้มีทั้งเกาหลีและจีน เข้ามาอยู่ในใจเรามากขึ้น เพราะตลอดเวลา 10 กว่าปีมานี้ ทั้งเกาหลีและจีน ได้โปรโมตสิ่งต่างๆ ในรูปแบบวัฒนธรรมผ่านทางภาพยนตร์ สถานที่ท่องเที่ยว ในโซเชียลมีเดียต่างๆ ทำให้เราได้เห็นและโอบรับวัฒนธรรมนั้นโดยไม่รู้ตัว ทำให้สินค้าของเขามาอยู่ในใจเรา
.
หรืออย่างเรื่องอุตสาหกรรมภาพยนตร์ อาทิ หนังอินเดีย หากคิดถึงภาพจำเมื่อ 20-30 ปีที่แล้ว คนจะนึกถึงการร้องเพลง การเต้น บางอย่างเข้าไม่ถึง แต่ขณะนี้อินเดียมี Bollywood ที่พัฒนาไปไกลมาก ตัวเลขล่าสุด 1 ใน 3 ของภาพยนตร์ที่เข้าฉายในออสเตรเลียคือหนังอินเดีย ซึ่งเราจะเห็นได้เลยว่ามีการปรับเปลี่ยนอย่างมากและรัฐบาลของอินเดียก็ลงทุนอย่างมากเพื่อจัด Festival ภาพยนตร์ ในออสเตรเลีย ให้หนังอินเดียได้ฉายและทั่วโลกได้เห็นหนังอินเดียสนุกจริงและเข้าถึงได้มากขึ้น หนังอินเดียจึงเป็นหนังเรื่องโปรดสำหรับหลายคนทั่วโลก
.
จากที่ยกตัวอย่างมาทั้งหมดจึงชี้ให้เห็นว่าพื้นที่ว่างของ Soft Power ยังมีอยู่เสมอ สามารถเปลี่ยนแปลงและพัฒนาได้ แค่เราเริ่มแล้วต้องไม่หยุด
.
โจทย์ใหญ่ของรัฐบาลคือ เราจะทำอย่างไรให้ต้นทุนวัฒนธรรมทำที่เรามี สร้าง Soft Power ที่นำมาซึ่งเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และโอกาสให้ประชาชนได้อย่างไร
.
การจะสร้าง Soft Power จะต้องมี 3 องค์ประกอบหลัก ซึ่งตามทฤษฎีของโจเซฟ ไนล์ ที่ได้พูดไว้เมื่อ 20 ปีที่แล้ว คือ
.
1. เราต้องมีต้นทุนทางวัฒนธรรมที่ดี และต้องมี Creative , innovation และ Story
.
2. คุณค่าทางการเมือง เป็นสิ่งจำเป็นมากๆ กฎหมายบางฉบับใช้มาแล้ว 20-30 ปีไม่สามารถเข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันได้ จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนเพื่อปลดล็อกเสรีภาพในการสร้างสรรค์งาน
.
3. นโยบายต่างประเทศ จะช่วยส่งออกทางวัฒนธรรมเหล่านี้ไปในต่างประเทศ
.
หากมองย้อนกลับไป เมื่อ 20 ปีที่แล้ว รัฐบาลไทยรักไทยเคยสร้างนโยบายที่สร้างให้ต้นทุนทางวัฒนธรรมของเราสามารถแข่งขันได้ในระดับนานาชาติ เช่น นโยบาย OTOP ที่สนับสนุนการเติบโตของสินค้าที่มาจากวัฒนธรรม รวบรวมทำแบรนด์ดิ้งของสินค้าทั่วประเทศ แล้วโปรโมตออกไปในต่างประเทศให้คนไทยเกิดความภาคภูมิใจที่สินค้าของเขาได้ประจักษ์ในสายตาชาวโลก
.
TCDC หรือ ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ ที่มีตัวอย่างวัตถุดิบต่างๆ ให้ผู้ออกแบบได้เห็นได้สัมผัส เพื่อปลดล็อกศักยภาพในการสร้างสรรค์ รวมถึงยังมีห้องแลปสำหรับทดลองการออกแบบ หรือกรุงเทพเมืองแฟชั่น ที่จุดพลุใหญ่ให้วงการแฟชั่นไทย ให้ทั่วโลกหันมาสนใจ หรือโครงการใหญ่อย่าง ครัวไทยสู่ครัวโลกที่สร้างเชฟอาหารไทยส่งออกไปทั่วโลก ส่งผลให้เกิดร้านอาหารไทยเพิ่มขึ้นมากมายในต่างประเทศ
.
ทุกนโยบายที่กล่าวมา จะเป็นการพัฒนาต้นทุนทางวัฒนธรรม แต่เราได้เรียนรู้จากนโยบายที่เคยทำไว้ คือ การจะสร้าง Soft Power จะต้องทำทั้งระบบ สร้างกลไกพัฒนายุทธศาสตร์ Soft Power พัฒนาทั้งอุตสาหกรรมและตัวคน
.
ส่วนแรก - คือการพัฒนาอุตสาหกรรม เราจะตั้งหน่วยงานที่มีชื่อว่า Thacca - Thailand Creative Content Agency ซึ่งจะเป็นกลไกสะท้อนเสียงจากภาคเอกชน ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนานโยบาย จะประกอบไปด้วยคณะอนุกรรมการทั้งหมด 12 คณะ ประกอบไปด้วย
.
1.แฟชั่น
2.หนังสือ
3.ภาพยนตร์
4.ละครและซีรีส์
5.เฟสติวัล
6.อาหาร
7.ออกแบบ
8.ท่องเที่ยว
9.เกม
10.ดนตรี
11.ศิลปะ
12.กีฬา
.
ในแต่ละอนุกรรมการจะขับเคลื่อนด้วยคนในอุตสาหกรรมทั้งหมด ที่อยู่กับงาน รู้ปัญหาจริง และมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมของตัวเองไปสู่เป้าหมาย อาทิ อุตสาหกรรมหนังสือ ที่เราตั้งเป้าว่าหนังสือไทยจะได้ถูกแปลเป็นภาษาต่างประเทศโดยที่จะเริ่มที่งานหนังสือนานาชาติไทเป เดือนมีนาคมปีหน้า หรือวงการแฟชั่นก็จะมีการวางแผน การให้ความสำคัญกับ Net Zero การทำอุตสาหกรรมที่ไม่ทำร้ายโลกเป็นค่านิยมที่ได้รับการพูดถึงในต่างประเทศ อีกทั้งทุกวงการที่จะมีการสร้างสรรค์ที่แตกต่างกันออกไป
.
#แพทองธารชินวัตร #พรรคเพื่อไทย #เศรษฐาทวีสิน #นายกรัฐมนตรี
Негізгі бет ‘แพทองธาร’ บรรยายพิเศษ ยก 3 หลักสร้าง Soft Power ปลดล็อกเสรีภาพ ต้นทุนทางวัฒนธรรม
Пікірлер: 75