โอ้อารีดังก่อนยังเคยชื่นบาน ทุกๆวันรื่นรมย์สมใจ
ถึงยามราตรีเหล่าเรานารีทั่วไป ระเริงใจร้องรำตามเสียงเพลง
เรามาสนุกทุกข์ใดไม่มี ถึงใครย่ำยีมิคิดกลัวเกรง
จะขอยืนสู้อยู่ไม่หนีจะขอยอมพลีเลือดละเลง ให้ลือระเบ็งว่าหญิงก็สู้
แต่มาไม่นานก็มีทหารไทย มิตรเมืองไกลต่างแดนแคว้นฉันอยู่
เขามาเพื่อชาติปราบอริราชศัตรู หวังเชิดชูเสรีที่รักยิ่ง
ดวงใจประเสริฐสมควรชม ฉันนึกนิยมน้ำใจรักจริง
ทั้งรูปก็หล่อติดใจฉัน เรามีรักกันสัมพันธ์ยิ่ง เสียดายเขาจริง เขาทิ้งฉันไป
ไม่เกลียดไม่โกรธไม่โทษหรอกคนดี หวังไมตรีต่อกันอันยิ่งใหญ่
ถึงยามราตรีหากกอดนารีไทย หวังน้ำใจคนึงนึกถึงมั่น
ยามฟ้าครวญคร่ำ ฉันครวญคราง รักเธอไม่สร่างรักดังหัวใจ
ถึงแม้จะห่างดั่งดินฟ้า แต่ใจฉันมาอยู่เคียงใกล้ ขอทหารไทยจำอารีดัง
เสียงครวญจากเกาหลี ประพันธ์คำร้องโดย "เบญจมินทร์" หรือ ตุ้มทอง โชคชนะ ทำนองเพลง Arirang ซึ่งเป็นเพลงพิ้นบ้านที่ดังมากจนเปรียบได้กับเพลงประจำชาติของเกาหลี และในเวอร์ชั่นนี้เป็นผลงานของ พรพรรณ วนา หรือ พรพรรณ ชื่นใจ หรือ พรพรรณ โนนสูง นักร้องลูกทุ่งจากค่ายนพพร ซิลเวอร์โกลด์ อดีตนักร้องชนะเลิศจากการประกวดร้องเพลงลูกทุ่งฝ่ายหญิงปี 2525 รายการ"ชุมทางคนเด่น" ของช่อง 7
Arirang อารีรัง เป็นเพลงพื้นบ้านเกาหลีที่รู้จักกันดีที่สุดทั้งภายในและภายนอกประเทศ เนื้อหาของเพลงเกี่ยวกับการเดินทางผ่านช่องเขา และมักจะเกี่ยวกับการลาจากคนรักหรือสงคราม ในประเทศเกาหลีมีเพลงอารีรังแบบต่างๆอยู่มากกว่า 100 แบบ และชื่อเพลงจะมีชื่อสถานที่หรืออื่นๆนำหน้า แล้วต่อท้ายด้วยคำว่า อารีรัง เคยถูกนำไปใช้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เกาหลีเรื่องอารีรัง (1926) ซึ่งเป็นภาพยนตร์เงียบที่ดีที่สุดของเกาหลี และเพลงประกอบภาพยนตร์ไทยเรื่อง อารีดัง ปี 2523 ในชื่อเพลงเสียงครวญจากเกาหลี (ผู้หญิงร้อง) และเสียงครวญจากทหารไทย(ผู้ชายร้อง)
ในปัจจุบันถ้าพูดถึงประเทศเกาหลี คนไทยมักจะนึกถึง โสม กิมจิ แดจังกึม เนื้อย่างเกาหลี หรือศิลปินวัยรุ่น และ"อารีดัง" (เพี้ยนมาจากคำว่า"อารีรัง") ซึ่งเป็นสมญานามของประเทศเกาหลีใต้
เบื้องหลังเพลงนี้ ผู้ประพันธ์เพลงเคยสมัครไปร่วมรบในสงครามเกาหลี เมื่อปี พ.ศ. 2499 หลังจากกลับมาเมืองไทยจึงได้แต่งเพลงนี้ขึ้นมาจนทำให้ "สมศรี ม่วงศรเขียว" นักร้องต้นฉบับโด่งดังไปด้วย
ยุคจักรวรรดินิยม คาบสมุทรเกาหลีตกเป็นอาณานิคมในครอบครองของญี่ปุ่น ภายใต้การปกครองอันโหดร้ายและรุนแรง จึงเกิดกระแสการต่อต้านเพื่อทวงประเทศคืน หลังจากอเมริกาทิ้งระเบิดปรมาณูลูกแรกที่ฮิโรชิมา รัสเซียก็ฉวยโอกาสประกาศสงครามกับญี่ปุ่นแล้วส่งกองทัพเข้าสู่ตอนเหนือของเกาหลี จนเกิดเป็นข้อตกลงระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯ แบ่งเขตกันที่เส้นขนาน (Latitude) 38 องศาเหนือ ทำให้ดินแดนเกาหลีถูกแบ่งแยกเป็น สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี หรือ เกาหลีเหนือ และ สาธารณรัฐเกาหลี หรือ เกาหลีใต้
ปีพ.ศ. 2493 กองทัพเกาหลีเหนือได้เคลื่อนกำลังผ่านเส้นขนานที่ 38 ลงมายังเกาหลีใต้ ทำให้คณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติมีการลงมติให้ประเทศที่เป็นสมาชิกของสหประชาชาติ ส่งทหารไปช่วยเกาหลีใต้ ต้านทานการรุกรานของเกาหลีเหนือที่มีประเทศจีนและรัสเซียหนุนหลัง โดยมีประเทศสหรัฐร่วมกับชาติพันธมิตรของสหประชาชาติหนุนเกาหลีใต้ ซึ่งประเทศไทยได้ส่งกองกำลังอาสาสมัครไปร่วมรบกับเขาด้วย จนมีการผูกเรื่องราวความสัมพันธ์ของหนุ่มไทยกับสาวเกาหลีผ่านจอภาพยนตร์ จากการถ่ายทำในประเทศเกาหลีใต้ มีดาราไทยร่วมแสดงกับดาราเกาหลีใต้ กำกับการแสดงโดย แจ๊สสยาม อำนวยการสร้างโดย เกียรติ เอี่ยมพึ่งพร และบทเพลงที่ชื่อ อารีดัง (อารีรัง) และเสียงครวญจากเกาหลี,และมีการนำกลับมาสร้างเป็นละครอีกครั้ง เมื่อปี พ.ศ.2539
เพลง อารีรัง เป็นเพลงเก่าแก่ที่ถูกถ่ายทอดกันต่อๆมาจากปากต่อปาก เริ่มจากคนในหมู่บ้านบนภูเขา ...อารีรัง อารีรัง อารารีโย ทุกคนจะต้องเคยได้ยินได้ฟังมาจากปู่ย่า ตายายที่ร้องกล่อมตั้งแต่ยังเป็นเด็กเล็ก โดยเฉพาะในยามทุกข์ยาก เพลงนี้จะเป็นเหมือนสิ่งปลอบประโลมใจให้พวกเขาคลายทุกข์ลงได้ ใครก็ตามที่เกิดมาและประสบปัญหาซึ่งต้องเผชิญมันสักครั้ง เหมือนถนนชีวิตที่ลดเลี้ยวเคี้ยวคด เหมือนช่องเขาที่ต้องข้ามผ่าน ถือเป็นวัฒนธรรมแสดงเอกลักษณ์ของกลุ่มชาติพันธุ์ แม้กระทั่งคนหนุ่มคนสาวในยุคปัจจุบันก็ยังนำเพลงนี้ไปร้องไปเล่นในเวอร์ชั่นต่างๆเป็นที่สนุกสนาน
ก่อนหน้านั้นเกาหลีเป็นประเทศที่ยากจนที่สุด "อารีรัง" เพลงปลุกปลอบใจของคนเกาหลีจึงเป็นเสมือนสัญญลักษณ์ที่ใช้ปลุกกระแสความรักชาติ ให้ความหลังและกำลังใจ จากประเทศเกษตรกรรมกลายเป็นประเทศอุตสาหกรรม จากประเทศที่เคยขอรับความช่วยเหลือกลายเป็นประเทศที่ให้ความช่วยเเหลือ ปัจจุบันอารีรังจึงยังคงฝังในจิตวิญญาณของคนเกาหลีทุกคน
Негізгі бет เสียงครวญจากเกาหลี : พรพรรณ วนา
Пікірлер: 26