“ยังมี” … ศิลปิน เฉลียง อัลบั้ม แบ-กบาล ปี พ.ศ. 2532 …
เฉลียง นอกจากจะแปลว่า ส่วนของเรือน/บ้าน ที่ต่อออกมาด้านหัวหรือท้ายสำหรับนั่งเล่นหรือเดินติดต่อกัน … อีกนัยหนึ่ง “เฉลียง” ยังเป็นชื่อของวงดนตรี ซึ่งก่อตั้งขึ้นประมาณปี พ.ศ. 2524 โดยในเวลานั้นถือว่าเป็นวงที่ทำดนตรีแนวออกจะแปลกใหม่สำหรับวงการเพลงในยุคนั้น โดยมี พี่จิก ประภาส ชลศรานนท์ เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการก่อตั้งวง (และเป็นผู้เขียนเนื้อเพลงของเฉลียงโดยส่วนใหญ่) เริ่มจากการรวมเพื่อนๆ สมัยเรียนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คือพี่เจี๊ยบ วัชระ ปานเอี่ยม และพี่ดี้ นิติพงษ์ ห่อนาค ก่อนที่จะมีสมาชิกเพิ่มเติมเสริมเวียนทั้งเข้า-ออก มีผลงานออกมาทั้งหมด 6 อัลบั้ม ก่อนจะมีการประกาศยุติวงและแยกย้ายกันไปอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2534 แต่ก็จะมีการกลับมารวมตัวเพื่อแสดงคอนเสิร์ตกันบ้างตามเหตุและจังหวะที่เหมาะสม …
บทเพลง “ยังมี” ที่เลือกนำมาเล่น cover นี้ เป็นผลงานอยู่ในอัลบั้ม แบ-กบาล ซึ่งเป็นอัลบั้มชุดที่ 5 ของเฉลียง ออกวางแผงในปี 2532 … โดยในอัลบั้มชุดนี้ พี่ดี้ และ พี่จุ้ย ศุ บุญเลี้ยง ขอแยกตัวออกไป พี่ดี้ไปทำงานที่ Grammy แบบเต็มตัว ส่วนพี่จุ้ย เริ่มรู้สึกอิ่มตัวและอยากออกไปทำงานอื่นที่สนใจ คืองานเขียนกับสำนักศิษย์สะดือและออกอัลบั้มเดี่ยวในแนวเพลงและดนตรีที่ตนเองสนใจ … แต่ก็ได้พี่นก ฉัตรชัย ดุริยประณีต เข้ามาเสริมทัพเติมเต็มเฉลียงในเวลานั้นและต่อมา พี่นกนับได้ว่าเป็นเฉลียงคนสุดท้าย (สมาชิกคนสุดท้ายที่เข้ามาร่วมในวง) ทั้งนี้จุดเริ่มมาจากการที่พี่นกต้องการเป็นนักแต่งเพลง และได้ส่งเพลงตัวสำรอง และอีกนาน (ที่อยู่ในอัลบั้มแรกของพี่อ๊อฟ พงพัฒน์ วชิรบรรจง) ผ่านเข้ามาให้กับทางค่ายคีตาฯ จนเข้าตา (จริงๆ อาจต้องใช้คำว่าเข้าหู) พี่จิก จึงได้ชักชวนกันให้เข้ามาเป็นสมาชิกเฉลียงในอัลบั้มชุดที่ 5 แบ-กบาล เป็นต้นมา …
โดยส่วนตัวน่าจะเริ่มมารู้จักเฉลียงแถวๆ อัลบั้มที่ 3-4 (อัลบั้มเอกเขนก - อัลบั้มเฉลียงหลังบ้าน) น่าจะราว 10 ขวบ แล้วค่อยมาตามฟังผลงานก่อนหน้าอื่นๆ ย้อนหลัง … หนึ่งใน Character ของเพลงเฉลียงที่รู้สึกได้และเป็นที่น่าสนใจคือเสียง Saxophone ที่มีพี่แต๋ง ภูษิต ไล้ทอง เป็นนักดนตรีเล่นเครื่องนี้ ซึ่งตอนเด็กๆ เป็นคนไม่ค่อยชอบเสียง Saxophone (อย่างไม่มีเหตุผล) เวลาได้ยินเพลงไหนที่มี Saxophone บรรเลงก็จะไม่ค่อยฟัง จนมาฟังเพลงเฉลียง (บวกกับเริ่มโตและเริ่มเข้าใจในดนตรีเพิ่มขึ้น ก็เริ่มเปิดใจฟัง) ซึ่งชอบเป็นทุนเดิมก็เลยทำให้เสียง Saxophone ค่อยๆ กลืนเข้าไปในโสตประสาทอย่างละมุมและกลมกล่อม … นอกจากนั้นเนื้อหาของบทเพลงและสไตล์ดนตรีส่วนใหญ่ของเฉลียงอยู่ในรูปแบบที่เป็นแบบฟังสบายๆ ฟังได้ทุกเพศ ทุกวัย สนุกสนาน ให้แง่มุมด้านบวกๆ เป็นส่วนใหญ่ จึงเป็นที่มาของคำว่า กลุ่มศิลปิน “ตัวโน๊ตอารมณ์ดี” ที่ได้ยิน DJ ตามสถานีวิทยุชอบให้จั่วหัวก่อนจะเปิดเพลงของเฉลียง…
ในส่วนของเพลง “ยังมี” ของเฉลียงนั้น ขับร้องโดยพี่เกี๊ยง เกียรติศักดิ์ เวทีวุฒาจารย์ ซึ่งพี่เกี๊ยงเป็นคนแต่งทำนองเพลงนี้ด้วย ส่วนคำร้องเขียนโดยพี่จิก โดยภาพรวมเนื้อหาเป็นเพลงรัก แบบที่เหมือนจะเป็นความรักที่ไม่ได้สมหวังแต่ยังให้มุมมองแบบบวกๆ เป็นบทเพลงที่ให้กำลังใจกับคนที่รู้สึกท้อแท้ อ้างว้างและรู้สึกโดดเดี่ยว บทเพลงสื่อบอกให้ใครอีกคนได้รู้ว่าเค้าไม่ได้อยู่ลำพังเพียงคนเดียว ยังมีอีกคนอยู่เคียงข้างเสมอแม้จะมองไม่เห็น/หรือไม่ได้มองอยู่เลยก็ตาม … ผมไม่แน่ใจแต่ผมสันนิษฐานว่าตอนเรียบเรียงเพลง “ยังมี” นี้ คนเรียบเรียง/หรือมือ piano น่าจะได้รับแรงบันดาลใจในการคิดลูก Piano มาจากท่อน Riff Piano ของเพลง Don’t know what you got (Till it’s gone) ซึ่งเป็นเพลงแนว Power Ballad ของวง Cinderella วงดนตรี Glam Metal ในช่วงปลายยุค 80’s และนำโน๊ตไม่กี่ตัวในช่วงสั้นๆ นั้นมาประยุกต์ปรับใช้เพื่อสร้างเป็น Riff piano ของเพลง “ยังมี” ได้อย่างไพเราะและลงตัวมากบนพื้นฐานของ melody ที่เข้าได้กับทำนองหลักทั้งหมดของเพลงที่พี่เกี๊ยงแต่งไว้ …
อีกหนึ่งความทรงจำที่มีกับเพลง “ยังมี” ก็คือในฐานะเพลงประกอบละครหลังข่าวช่อง 9 ในช่วงปี พ.ศ. 2532-2533 ประมาณนี้ เรื่อง “ใจ” ซึ่งผลิตโดยบริษัท ไนท์สปอตโปรดักชั่น ในยุคที่มีรายการตลกอย่างเพชฌฆาตความเครียด ละครเทวดาตกสวรรค์ สาธรดอนเจดีย์ บุญเติมร้านเดิมเจ้าเก่า ที่ล้วนเป็นผลงานของทางไนท์สปอต ออกอากาศในช่วงหลังข่าวค่ำช่อง 9 … ละครเรื่องใจ ใช้เพลงยังมีเป็นเพลงประกอบ มีคุณปัญญา นิรันดร์กุล เป็นพระเอก และ คุณ เหมือนฝัน (ลูกปลา) บัณฑิตสกุล เป็นนางเอก จำได้เพียงคลับคล้ายคลับคลาว่าเนื้อเรื่องก็น่าจะประมาณเนื้อหาที่สื่อออกมาทางเนื้อเพลงนั่นแหละ ประมาณว่าเป็นความรักที่ไม่สมหวังแต่ยัง (แอบ) เฝ้าห่วงใย ดูแลกันอยู่ (ส่วนใครห่วงและดูแลใคร อันนี้จำไม่ค่อยได้แล้ว เลือนลางอย่างเต็มที่) …
เพลง “ยังมี” ที่รู้จักได้ยินและได้ฟังมาตั้งแต่อายุ 12 ปี เป็นอีกบทเพลงหนึ่งที่พี่เกี๊ยง น่าจะต้องร้องในทุกเวทีที่เฉลียงได้ขึ้นทำการแสดง และคงเป็นอีกหนึ่งบทเพลงที่กลายเป็นเพลงประจำตัวของพี่เกี๊ยง เฉลียงไปแล้ว … ราว 4-5 ปี ก่อน ผมเคยแกะและเล่นเพลงนี้ไปครั้งหนึ่ง ตอนนั้นใช้โทรศัพท์มือถืออัดเอาง่ายๆ และบรรเลง piano อย่างเดียว คราวนี้มีโอกาสได้กลับมาเล่นใหม่ ปรับบางอย่างตามเท่าที่คิดว่าน่าจะทำให้มันดีขึ้นมาได้บ้าง ใส่ Solo กลางเพลงด้วย sound Saxophone ได้ใส่ลูก solo guitar ตามที่พี่เกี๊ยง เล่นไว้ในเพลง ใส่ line ประสานแทรกท่อนร้องด้วยเสียง guitar แทนเสียง Saxophone ที่พี่แต๋งสอดแทรกไว้ในต้นฉบับ มันไม่ได้สมบูรณ์และเหมือนอย่างที่ต้นฉบับทำไว้สักเท่าไหร่นัก แต่แค่นี้ก็ช่วยเติมเต็มความรู้สึกในใจได้อย่างมากมาย และก็ยังคอยบอกให้ตัวเองได้รู้ว่าจริงๆ แล้ว … “ยังมี” เสมอ
Негізгі бет Музыка ยังมี
Пікірлер