EPS อัตราส่วนทางการเงินสำคัญที่นักลงทุนสายพื้นฐานจะไม่รู้ไม่ได้
EPS ย่อมาจาก Earning Per Share หมายถึง กำไรสุทธิต่อหุ้น หรือกำไรต่อหุ้น
คำนวณมาจากการนำ กำไรสุทธิ / จำนวนหุ้นบริษัทที่ชำระแล้ว
เช่น บริษัท A มีกำไรสุทธิ 100 ล้านบาท มีจำนวนหุ้นชำระแล้ว 1,000 ล้านหุ้น
EPS = 100 ล้านบาท / 1,000 ล้านหุ้น = 0.10 บาท/หุ้น
เราควรเลือกบริษัทที่มีแนวโน้ม EPS เพิ่มขึ้น เพราะแสดงถึงบริษัทนั้นเติบโตขึ้น
จะเห็นว่า EPS เกี่ยวกับ 2 อย่าง คือ กำไรสุทธิ และจำนวนหุ้น
ปกติถ้าจำนวนหุ้นเท่าเดิม เมื่อกำไรสุทธิมากขึ้น ก็จะส่งผลให้ EPS มากขึ้น
แต่ถ้าเมื่อไรบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงจำนวนหุ้น ก็จะกระทบกับ EPS ด้วย
เช่น บริษัท A มีจำนวนหุ้นชำระแล้ว 1,000 ล้านหุ้น (ราคาพาร์เท่าเดิม)
ถ้าบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงจำนวนหุ้น โดยลดจำนวนหุ้นลง เหลือ 900 ล้านหุ้น เรียกว่าการลดทุน
ถ้าบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงจำนวนหุ้น โดยเพิ่มจำนวนหุ้นขึ้น เป็น 1,100 ล้านหุ้น เรียกว่าการเพิ่มทุน
การเปลี่ยนแปลงจำนวนหุ้นส่งผลกับ EPS อย่างไร
กรณีลดทุน จำนวนหุ้นลดลง เมื่อกำไรสุทธิเท่าเดิม ก็จะส่งผลให้ EPS มากขึ้น เพราะตัวหารน้อยลงก็ได้ผลลัพธ์มากขึ้น หรือถ้ากำไรสุทธิเพิ่มขึ้น จำนวนหุ้นลดลง EPS ก็มากขึ้นเช่นเดียวกัน ซึ่งดี ผู้ถือหุ้นได้รับประโยชน์
แต่ถ้ากรณีเพิ่มทุน จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้น เมื่อกำไรสุทธิเท่าเดิม จะส่งผลให้ EPS ลดลง ซึ่งกรณีนี้ไม่ดี
ดังนั้น ถ้าบริษัทประกาศเพิ่มทุน เราควรพิจารณาว่าการเพิ่มทุนครั้งนี้มีแนวโน้มทำให้บริษัทเติบโตขึ้น สร้างผลตอบแทนที่ดีขึ้นได้ในอนาคตหรือไม่ ถ้าใช่ก็ถือเป็นการเพิ่มทุนที่ดี
สรุป
1. เราควรเลือกบริษัทที่มีแนวโน้ม EPS เพิ่มขึ้น
2. การเติบโตของบริษัทควรดูที่ EPS ไม่ใช่ดูแค่กำไรสุทธิอย่างเดียว เพราะบริษัทอาจมีการเพิ่มทุนแล้วทำให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น แต่ EPS ไม่เพิ่มขึ้นก็ได้
#หุ้น #ลงทุน #invest #investing #การลงทุน #ลงทุนหุ้น #เล่นหุ้น #ซื้อหุ้น #กำไรสุทธิต่อหุ้น #EPS #EarningPerShare #กำไรต่อหุ้น #อัตราส่วนทางการเงิน #มือใหม่ลงทุนหุ้น #นักลงทุนป้ายแดง #โอ้เอ้อินเวส #OhAeWay
KZitem: / @ohaeway
Facebook: / ohaeway
TikTok: / ohaeway
X: x.com/OhAeWay
Негізгі бет EPS กำไรต่อหุ้น คืออะไร? : มือใหม่ลงทุนหุ้น EP.19 | นักลงทุนป้ายแดง
Пікірлер: 2