ฎีกา InTrend Ep.139 ผู้ปกครองมีอำนาจถอนคำร้องทุกข์ในคดียักยอกที่ผู้เยาว์เป็นผู้เสียหายได้เองหรือไม่
The Host : กองสารนิเทศและประชาสัมพันธ์ สำนักงานศาลยุติธรรม
Guest Host : สรวิศ ลิมปรังษี
ที่ปรึกษา : วิญญู พิชัย, สรวิศ ลิมปรังษี, ณัฐสิมา อนันทนุพงศ์
Show Creator : ศณิฏา จารุภุมมิก
Episode Producer & Editor : ศณิฏา จารุภุมมิก, รวิภา กิ่งจักร์
Sound Designer & Engineer : กฤตภาส ทองแจ้ง, กิติชัย โล่สุวรรณ
Coordinator & Admin : โสรัตน์ ไวศยดำรง, สุพัตรา ขำมีศักดิ์, สุภาวัชร์ ดลมินทร์
Art Director : สุภาวัชร์ ดลมินทร์, ปันจารีณ์ สุวรรณโภชน์, กนกกูล วสยางกูร
Webmaster : ผุสชา เรืองกูล, วชิระ โรจน์สุธีวัฒน์
ในคดีอาญาที่เป็นความผิดต่อส่วนตัว ตามปกติแล้วเป็นเรื่องของคู่ความ โดยเฉพาะผู้เสียหายที่จะเป็นคนตัดสินใจว่าจะดำเนินคดีต่อไปหรือไม่ เพราะการกระทำความผิดที่เกิดขึ้นมักไม่ใช่เรื่องร้ายแรง และไม่ได้ส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่นหรือสังคมโดยรวม แต่ในกรณีที่ผู้เสียหายเป็นผู้เยาว์อาจมีปัญหาได้ว่าการถอนคำร้องทุกข์จะต้องดำเนินการอย่างไรหรือมีขั้นตอนอะไรบ้าง ปัญหาที่จะนำมากล่าวถึงในตอนนี้จะเป็นกรณีที่จำเลยจัดการทรัพย์สินที่ผู้เยาว์มีสิทธิอยู่โดยทุจริต ผู้ปกครองมีอำนาจถอนคำร้องทุกข์ได้ด้วยตนเองหรือไม่
นายเสือเป็นผู้จัดการมรดกตามคำสั่งของศาล โดยมีเด็กหญิงนกเป็นทายาทที่มีสิทธิได้รับมรดกด้วยคนหนึ่ง นายเสือได้เบียดบังเอาเงินไปจากกองมรดกจำนวน 400,000 บาท ต่อมาเมื่อปรากฏข้อเท็จจริงขึ้น จึงได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานตำรวจ จนกระทั่งต่อมาพนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้องคดีต่อศาล
เด็กหญิงนกมีนางไก่เป็นผู้ปกครองตามคำสั่งของศาล โดยศาลได้กำหนดให้ผู้อำนวยการสถานพินิจเป็นผู้กำกับการปกครองในส่วนที่เกี่ยวกับทรัพย์สินของเด็กหญิงนกด้วย
ในคดีที่พนักงานอัยการฟ้อง นายเสือให้การรับสารภาพ ศาลมีคำพิพากษาให้จำคุกโดยไม่รอการลงโทษ นายเสือจึงอุทธรณ์คำพิพากษา ศาลอุทธรณ์ลดโทษลงแต่ยังคงให้จำคุกโดยไม่รอการลงโทษ นายเสือจึงยื่นฎีกา โดยแนบบันทึกข้อตกลงฉบับหนึ่งที่ระบุว่านางไก่ซึ่งเป็นผู้ปกครองของเด็กหญิงนก ผู้เสียหายขอถอนคำร้องทุกข์ในคดีนี้ เนื่องจากได้ตกลงกับทางนายเสือแล้ว ขอให้ศาลฎีกาจำหน่ายคดีออกจากสารบบทความ
ในกรณีนี้คดีที่นายเสือเป็นจำเลย พนักงานอัยการได้ฟ้องในข้อหาตามมาตรา 353 ในฐานะที่เป็นผู้ได้รับมอบหมายให้จัดการทรัพย์สินของผู้อื่นแล้วกระทำผิดหน้าที่โดยทุจริต ความผิดดังกล่าวนี้ มาตรา 356 ได้กำหนดให้เป็นความผิดอันยอมความได้ ซึ่งการสอบสวนและดำเนินคดีลักษณะนี้จะทำได้ต่อเมื่อมีการร้องทุกข์ตามกฎหมาย
แม้จะมีการร้องทุกข์แล้ว หากผู้เสียหายไม่ประสงค์จะดำเนินคดี ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 126 วรรคหนึ่ง ก็กำหนดให้สามารถถอนคำร้องทุกข์เสียเมื่อใดก็ได้ ทำให้ปัญหาในคดีนี้จึงอยู่ที่ว่าการตกลงระหว่างนางไก่กับนายเสือมีผลมากน้อยเพียงใด การถอนคำร้องทุกข์ที่จะมีผลทำให้สิทธินำคดีอาญามาฟ้องระงับไปตามมาตรา 39(2) จะต้องเป็นการถอนคำร้องทุกข์โดยชอบด้วยกฎหมายด้วย
ในการดำเนินคดีอาญาในความผิดที่เกี่ยวกับยักยอกหรือการจัดการทรัพย์สินโดยทุจริตนี้ถือว่าเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายในทางทรัพย์สินของผู้เสียหายที่เป็นผู้เยาว์ การยอมความหรือการตกลงประนีประนอมยอมความในเรื่องนี้จึงมีลักษณะของการทำนิติกรรมเกี่ยวกับทรัพย์สินของเด็กหญิงนกที่เป็นผู้เยาว์
ในกรณีนี้การที่ศาลมีคำสั่งตั้งนางไก่ให้เป็นผู้ปกครองของเด็กหญิงนก ศาลได้กำหนดให้ผู้อำนวยการสถานพินิจเป็นผู้กำกับการปกครองในส่วนที่เกี่ยวกับทรัพย์สินของเด็กหญิงนกด้วย ตามพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2553 มาตรา 169 การที่นางไก่จะไปตกลงประนีประนอมยอมความจึงต้องขอความยินยอมจากผู้อำนวยการสถานพินิจด้วย
นอกจากนั้น เมื่อเป็นการทำสัญญาประนีประนอมยอมความ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1574(12) ได้กำหนดไว้ด้วยว่าเป็นนิติกรรมอันเกี่ยวกับทรัพย์สินของผู้เยาว์ที่จะต้องขอศาลด้วย แต่ในกรณีนี้นางไก่ไม่ได้ขอความยินยอมจากผู้อำนวยการสถานพินิจและไม่ได้ขออนุญาตจากศาลก่อน จึงทำให้เป็นการยอมความที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย การถอนคำร้องทุกข์จึงไม่ชอบด้วยกฎหมายด้วย
ดังนั้น ในการยอมความและประนีประนอมยอมความในคดีที่เกี่ยวกับทรัพย์สินของผู้เยาว์ หากมีการตั้งผู้กำกับดูแลการปกครองในส่วนที่เกี่ยวกับทรัพย์สินก็ต้องขอความยินยอมจากผู้กำกับดูแลการปกครองนั้นด้วย และต้องขออนุญาตศาลด้วยจึงจะทำให้เป็นการยอมความโดยชอบและทำใหสามารถถอนคำร้องทุกข์โดยชอบด้วยกฎหมายได้
(คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4903/2565)
Негізгі бет ฎีกา InTrend Ep.139 ผู้ปกครองมีอำนาจถอนคำร้องทุกข์ในคดียักยอกที่ผู้เยาว์เป็นผู้เสียหายได้เองหรือไม่
Пікірлер: 2