ฎีกา Intrend ep.6 ค่าขาดไร้อุปการะจากการทำให้ลูกตาย
นายสรวิศ ลิมปรังษี
The Host : กองสารนิเทศและประชาสัมพันธ์ สำนักงานศาลยุติธรรม
Guest Host : สรวิศ ลิมปรังษี
ที่ปรึกษา : สรวิศ ลิมปรังษี, สุริยัณห์ หงษ์วิไล, จีรวรรณ เจริญยศ
Show Creator : นันทวัลย์ นุชนนทรี, ศณิฏา จารุภุมมิก
Episode Producer & Editor : ศณิฏา จารุภุมมิก, ปนัสยา ชื่นอุระ
Sound Designer & Engineer : กฤตภาส ทองแจ้ง, กิติชัย โล่สุวรรณ
Coordinator & Admin : สุภาวัชร์ ดลมินทร์, โสรัตน์ ไวศยดำรง
Art Director : สุภาวัชร์ ดลมินทร์, ปันจารีณ์ สุวรรณโภชน์ ทศพร ศิลาบำเพ็ญ
Webmaster : ผุสชา เรืองกูล, วชิระ โรจน์สุธีวัฒน์
อุบัติเหตุเป็นเรื่องที่ไม่มีใครต้องการให้เกิดและเกิดโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วสิ่งหนึ่งที่เป็นผลพวงตามมาคือ “ความเสียหาย” และผลกระทบที่เกิดจากอุบัติเหตุเหล่านั้น แน่นอนว่าผลกระทบและความเสียหายนี้ย่อมมากบ้าง น้อยบ้าง ตามสภาพและความรุนแรงของเหตุการณ์แต่ละครั้ง แต่หากรุนแรงถึงขนาดทำให้คนเสียชีวิตแล้ว บุคคลที่จะได้รับความเสียหายและผลกระทบคนหนึ่งคือ บิดามารดาของผู้เสียชีวิตที่จะขาดคนมาคอยเลี้ยงดู ปัญหาคือถ้าหากบุตรที่เสียชีวิตไม่ได้มีอาชีพและรายได้ที่มากนักจนอาจจะไม่ค่อยมีมาจุนเจือบิดามารดาของตน แล้วแบบนี้บิดามารดาจะมีสิทธิได้รับค่าสินไหมทดแทนจากคนที่ทำให้บุตรเสียชีวิตในส่วนนี้หรือไม่ หรือหากจะได้จะคิดกันอย่างไรและได้มากน้อยเพียงใดในเมื่อปกติบุตรที่เสียชีวิตเองก็ไม่ค่อยได้ส่งเสียให้บิดามารดาสักเท่าใด
วันหนึ่งขณะที่ “นายขิง” ขับรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ไปส่งที่ท่าเรือ ขณะที่รถกำลังแล่นไปด้วยความเร็วพอสมควรถึงบริเวณใกล้สี่แยกแห่งหนึ่ง ไฟจราจรกำลังเปลี่ยนเป็นสีแดง แต่ด้วยความเร่งรีบของนายขิงคิดว่าเพิ่งเปลี่ยนเป็นไฟแดงได้นิดเดียวคงไม่เป็นอะไรถ้าจะขับรถต่อไปจะได้ไม่ต้องหยุดให้เสียเวลา นายขิงจึงไม่ได้หยุดรถ ปรากฏว่าขณะที่รถกำลังผ่านสี่แยก รถจักรยานยนต์ของ “นายข่า” วิ่งผ่านไปพอดีด้วยความที่ได้สัญญาณไฟเขียว โดยนายข่าเองก็ไม่ได้คาดคิดว่าจะมีรถฝ่าไฟแดงมา ทำให้รถของขิงชนรถนายข่าพอดี นายข่ากระเด็นไปเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ก่อนเสียชีวิต นายข่ามีอาชีพรับจ้างทั่วไป มีรายได้ไม่แน่นอนแล้วแต่จะมีใครมาจ้าง เช่น ตัดแต่งต้นไม้ ขนของ ซ่อมท่อประปา ด้วยความที่รายได้ไม่แน่นอน ทำให้นายข่าซึ่งมีรายจ่ายในครอบครัวเองด้วยจึงไม่ค่อยได้มาจุนเจือพ่อแม่ของตนสักเท่าใด พ่อแม่ของนายข่าได้มาฟ้องนายขิงเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากนายขิงหลายประการ รวมทั้งค่าขาดไร้อุปการะ
ปัญหาในคดีลักษณะนี้ในความเป็นจริงมีหลายเรื่องหลายปัญหา แต่คงนำมากล่าวถึงทั้งหมดในที่นี่ไม่ได้ แต่จะขอนำเฉพาะปัญหาที่เกี่ยวกับการเรียกค่าขาดไร้อุปการะมากล่าวถึงเท่านั้น
เรื่องของค่าอุปการะนี้คงเป็นเรื่องระหว่างพ่อแม่กับลูกที่เมื่อยามลูกยังเล็ก พ่อแม่ก็เป็นคนเลี้ยงดูลูก พอลูกเติบใหญ่ในสังคมไทย ๆ ของเราเน้นย้ำเรื่องความกตัญญูที่ลูกพึงมีต่อพ่อแม่มาตลอด กฎหมายเองก็ตระหนักดีถึงหน้าที่นี้ เพราะเมื่อลูกยังเล็ก กฎหมายบังคับกำหนดให้พ่อแม่มีหน้าที่ต้องอุปการะเลี้ยงดูลูก ในทางกลับกัน เมี่อลูกเติบโตขึ้นและพ่อแม่แก่ชราลง กฎหมายก็กำหนดไว้เช่นกันว่าบุตรต้องมีหน้าที่อุปการะเลี้ยงดูพ่อแม่ หน้าที่ดังกล่าวนี้เป็นหน้าที่ที่กฎหมายกำหนดไว้ให้สอดคล้องกับหน้าที่ทางศีลธรรมในสังคม
เมื่อกฎหมายกำหนดให้ลูกมีหน้าที่อุปการะเลี้ยงดูพ่อแม่ หากมองในอีกแง่หนึ่งก็จะเท่ากับว่าพ่อแม่เองก็มีสิทธิที่จะได้รับการอุปการะเลี้ยงดูจากลูกด้วยเช่นกัน การที่มีบุคคลภายนอกมาทำให้ลูกเสียชีวิตอย่างเช่นกรณีของนายขิงที่ขับรถชนนายข่าจนทำให้นายข่าเสียชีวิตจึงมีผลโดยตรงที่กระทบถึงสิทธิตามกฎหมายของพ่อแม่ของนายข่าในอันที่จะได้รับการอุปการะเลี้ยงดูจากนายข่า ส่วนการที่นายข่าจะเลี้ยงดูพ่อแม่ของตนในความเป็นจริงมากน้อยเพียงใดนั้นเป็นอีกประเด็นหนึ่งและเป็นเรื่องระหว่างนายข่ากับพ่อแม่ของตัวเอง ดังนั้น พ่อแม่ของนายข่าในกรณีนี้จึงย่อมมีสิทธิได้รับค่าสินไหมทดแทนเพื่อชดเชยสิทธิที่ตนจะได้รับการอุปการะเลี้ยงดูที่เสียไปเพราะการกระทำละเมิดของนายขิง แม้ว่าในความเป็นจริงจะไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่านายข่าจะได้ส่งเสียเลี้ยงดูพ่อแม่ของตนหรือไม่ก็ตาม
หากต้องพิสูจน์ให้เห็นก่อนว่าลูกได้ส่งเสียเลี้ยงดูพ่อแม่ของตนอยู่ในขณะเกิดเหตุจึงจะทำให้พ่อแม่มีสิทธิได้รับค่าขาดไร้อุปการะ แบบนี้กรณีที่ลูกถูกทำให้เสียชีวิตในขณะอายุยังน้อยและยังไม่มีรายได้อะไรก็จะทำให้พ่อแม่ไม่มีโอกาสได้รับการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนไป แต่เนื่องจากกรณีนี้ถือว่าเป็นการทำให้เสียสิทธิที่กฎหมายรับรองไว้ แม้ในความเป็นจริงจะอุปการะกันอย่างไรก็ย่อมถือได้ว่าสิทธินั้นได้เสียไปแล้วเพราะผลของการกระทำที่เกิดขึ้น ผู้ที่กระทำจึงต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหาย
ส่วนเรื่องจำนวนค่าสินไหมทดแทนที่พ่อแม่ของนายข่าจะได้จะเป็นจำนวนเท่าใดนั้นเป็นเรื่องที่ศาลจะต้องพิจารณากำหนดจากพฤติการณ์และความร้ายแรงของการกระทำละเมิดที่เกิดขึ้น โดยอาจต้องคำนึงตั้งแต่อายุของพ่อแม่และความเป็นไปได้ของระยะเวลาที่จะได้รับการอุปการะเลี้ยงดู
การละเมิดหรือการทำให้บุคคลอื่นได้รับความเสียหาย ไม่ว่าจะด้วยการจงใจทำให้เกิดขึ้นหรือเกิดจากความประมาทเลินเล่อก็แล้วแต่ ผู้กระทำย่อมต้องรับผิดชอบเยียวยาความเสียหายที่ตนเองก่อให้เกิดขึ้น ไม่ว่าความเสียหายนั้นจะเกิดกับใครก็ตาม เมื่อทำให้ลูกของคนอื่นเสียชีวิต พ่อแม่ย่อมต้องเสียหายโดยสภาพ ค่าขาดไร้อุปการะจึงเป็นค่าสินไหมทดแทนประเภทหนึ่งที่ผู้ทำละเมิดต้องรับผิดชดใช้เช่นกันไม่ว่าลูกนั้นจะได้ส่งเสียเลี้ยงดูพ่อแม่อยู่ในความเป็นจริงหรือไม่
(เทียบคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5553/2562)
Негізгі бет ฎีกา InTrend EP.6 ค่าขาดไร้อุปการะจากการทำให้ลูกตาย
Пікірлер